ออกหมายเรียกปลัด-อส.เมืองน้ำดำยิงปืนขู่ซ้อมชาวบ้านสอบปากคำ

กาฬสินธุ์ - ตำรวจออกหมายเรียก 2 ปลัดชุด ฉก. พร้อม อส.สอบปากคำกรณีพาพวกรุมสกรัมชาวบ้าน ย้ำดำเนินคดีอย่างเป็นธรรม ขณะที่เหยื่อโดนตื้บยืนยันเอาผิดถึงที่สุด พร้อมขอคุ้มครองพยานหวั่นไม่ได้รับความปลอดภัย ด้านความเคลื่อนไหวฝ่ายป้องกันยังไม่ให้สอบปากคำ อ้างติดธุระฝึกอบรม

จากกรณีนายสหรัฐ โอระนำ อายุ 21 ปี บ้านหนองกุง ต.หนองกุง อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.ลำปาว อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ เพื่อให้ดำเนินคดีต่อกลุ่มชายฉกรรจ์ หลังจากตนพร้อมเพื่อนได้ไปหาปลาและกินข้าวป่ากันที่บริเวณริมเขื่อนลำปาว บ้านนาขาม ต.ภูดิน อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ แต่ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ซึ่งอ้างตัวเป็นปลัดฝ่ายความมั่นคงของปกครอง จ.กาฬสินธุ์ และเจ้าหน้าที่ อส.พร้อมอาวุธครบมือบุกเข้ามาไล่ยิงปืนขู่ขึ้นฟ้า ชักปืนจ่อ ใส่กุญแจมือ ก่อนที่จะรุมทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บ

โดยภายหลังทราบว่ากลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าวเป็นปลัดและ อส.ชุดเฉพาะกิจฝ่ายปกครอง จ.กาฬสินธุ์ จึงเดินหน้าเข้าขอความเป็นธรรมที่ศูนย์ดำรงธรรม จ.กาฬสินธุ์ และร้องทุกข์ต่อผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดวันนี้ (1 เม.ย.) พล.ต.ต.อภิชิต เทียนเพิ่มพูล ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ มอบหมายให้ พ.ต.อ.มนตรี จรัญพงศ์ รองผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ เข้าติดตามความคืบหน้าคดีกับพนักงานสอบสวน โดยทั้งการตรวจสำนวนการสอบสวน พร้อมทั้งเข้าสอบปากคำพยานที่อยู่ในเหตุการณ์เพิ่มเติม 6-7 ราย และให้ผู้เสียหายชี้ภาพถ่ายปลัด และเจ้าหน้าที่ อส. ทั้งนี้ ส่วนใหญ่ให้การตรงกันว่าปลัดและ อส.ได้ยิงปืนขู่ ชักปืนจ่อหน้า ใส่กุญแจมือ และทำร้ายร่างกายชาวบ้าน

พ.ต.อ.มนตรี จรัญพงศ์ รอง ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ ในฐานะหัวหน้าชุดพนักงานสอบสวนซึ่งกำกับและดูแลคดี กล่าวว่า ขณะนี้คดีคืบหน้าไปพอสมควร อย่างไรก็ตาม คดีดังกล่าวอยู่ในความสนใจของประชาชนเนื่องจากเจ้าทุกข์เป็นชาวบ้าน ส่วนผู้ถูกกล่าวหาเป็นข้าราชการมีตำแหน่งเป็นปลัด และ อส.ในชุดเฉพาะกิจฝ่ายปกครอง จ.กาฬสินธุ์ ดังนั้น ผู้บังคับบัญชาทั้ง พล.ต.ท.บุญเลิศ ใจประดิษฐ ผบช.ภ.4 รวมทั้ง พล.ต.ต.จตุพล ปานรักษา รอง ผบช.ภ.4 และ พล.ต.ต.อภิชิต เทียนเพิ่มพูล ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ มีความเป็นห่วงจึงได้กำชับให้พนักงานสอบสวนดำเนินการอย่างรอบครอบรัดกุม โดยจะต้องมีการสอบปากคำเจ้าทุกข์ สอบปากคำพยาน และสอบปากคำผู้ถูกกล่าวหาอย่างละเอียด และรวบรวมพยานหลักฐาน ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมาและให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย

พ.ต.อ.มนตรีกล่าวต่อว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำเจ้าทุกข์และพยานที่อยู่ในเหตุการณ์ครบแล้วประมาณ 6-7 ราย ส่วนใหญ่ให้การตรงกันว่าปลัดและอส.ได้ยิงปืนขู่ ชักปืนจ่อหน้า ใส่กุญแจมือ และทำร้ายร่างกาย พร้อมทั้งออกหมายเรียกไปยังปลัด 2 คนมามาสอบปากคำ เมื่อวันที่ 31 มี.ค. 59 แต่ได้รับหนังสือขอเลื่อนการให้ปากคำออกไปหลังจากวันที่ 10 เม.ย. 59 เนื่องจากติดภารกิจราชการ และติดอบรม

ล่าสุดตำรวจได้ออกหมายเรียกเจ้าหน้าที่ อส.2 คนมาสอบปากคำในวันที่ 2 เม.ย. 59 นี้ พร้อมทำหนังสือส่งไปยังจังหวัดเพื่อขอนำอาวุธปืนของปลัด และ อส.มาตรวจสอบว่าในวันดังกล่าวได้ยิงปืนหรือไม่

อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวนจะต้องรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดส่งไปยัง ป.ป.ท.ภายใน 30 วัน เนื่องจากเป็นการกล่าวหากระทำผิดของเจ้าหน้าที่รัฐ ขณะนี้สำนวนใกล้เสร็จสมบูรณ์แล้ว จากนั้น ป.ป.ท.จะดำเนินการตรวจสอบ และหากพบว่ามีมูลความผิดก็จะส่งเรื่องกลับมายังตำรวจ ทั้งนี้เบื้องต้นจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาทำร้ายร่างกาย กักขังหน่วงเหนี่ยว และหากพิสูจน์รวบรวมพยานหลักฐานได้ว่ามีการยิงปืนจริง และพกพาอาวุธปืนโดยไม่มีคำสั่ง และอาวุธปืนไม่มีทะเบียนก็จะมีการแจ้งข้อหาเพิ่มต่อไป

ด้านนายจำรัส สุนทรวัฒน์ อายุ 59 ปี อาของนายสหรัฐ ผู้เสียหาย กล่าวว่า ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการอย่างตรงไปตรงมาเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม เพราะเชื่อว่าตำรวจจะต้องเป็นที่พึ่งของประชาชน ตนและญาติพี่น้องยืนยันว่าจะดำเนินการเอาผิดให้ถึงที่สุด เพราะพฤติกรรมการกระทำของปลัดและ อส.เกินกว่าเหตุ ใช้อำนาจหน้าที่รังแกและทำร้ายประชาชน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ตน หลานชายที่ถูกทำร้าย และพยานเกิดความไม่มั่นใจในความปลอดภัยในชีวิต และไม่มั่นใจในความยุติธรรม เพราะก่อนหน้านี้มีโทรศัพท์มาข่มขู่ จึงเตรียมขอการรับการคุ้มครองพยานจากตำรวจ เนื่องจากคู่กรณีเป็นข้าราชการ ทำหน้าที่ชุดเฉพาะกิจฝ่ายปกครอง มีตำแหน่งเป็นปลัดและ อส.อีกทั้งปัจจุบันขบวนการตรวจสอบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้นสังกัดระดับจังหวัด ซึ่งเท่าที่ทราบก็ยังไม่มีการดำเนินการตรวจสอบไม่ดำเนินการใดๆกับปลัดและอส.ที่ลงมือทำร้ายร่างกายชาวบ้าน รวมทั้งปลัดที่ทำหน้าที่หัวหน้าชุดเฉพาะกิจฯ ซึ่งยังคงปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ ดังนั้นจึงฝากขอความเป็นธรรมไปถึงอธิบดีกรมการปกครองและปลัดกระทรวงมหาดไทยให้เร่งรัดดำเนินการตรวจสอบเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ประชาชนด้วย