ศูนย์ข่าวขอนแก่น - มูลนิธิมั่นพัฒนาเดินหน้ารณรงค์ปลุกจิตสำนึกเชิงบวก “4 อย่า” ประเดิมทำ MOU ร่วมภาคีเครือข่ายอนาคตไทยจังหวัดขอนแก่น ขับเคลื่อนกิจกรรมภายใต้โครงการ “อย่าให้ใครว่าไทย” ก่อนใช้เป็นต้นแบบขยายผลไปยังจังหวัดอื่นๆ ในภาคอีสาน หวังสร้างสังคมไทยให้น่าอยู่ เผยกลุ่มเป้าหมายหลักที่ต้องเร่งล้างค่านิยมฟุ้งเฟ้อ ขี้โกงคือเด็ก และเยาวชน
วันนี้(29 มี.ค.) ที่ห้องประชุมเป็งจาล เทศบาลนครขอนแก่น มูลนิธิมั่นพัฒนาในนามเครือข่ายอนาคตไทย ได้ลงนามบันทึกความร่วมมือว่าด้วยแนวทางการดำเนินงานขับเคลื่อนภารกิจเครือข่ายอนาคตไทยกับองค์กรภาคีเครือข่ายอนาคตไทยจังหวัดขอนแก่น
นางวรรณวิมล ศุภประเสริฐ เลขาธิการมูลนิธิมั่นพัฒนา กล่าวว่า เป็นเรื่องน่ายินดีที่จังหวัดขอนแก่นตอบรับเข้าร่วมรณรงค์โครงการ “อย่าให้ใครว่าไทย” ภายหลังจากที่โครงการประสบความสำเร็จระดับหนึ่งในปีที่ผ่านมา ขอนแก่นถือเป็นจังหวัดแรกในภูมิภาคที่ตอบรับเข้าร่วมโครงการ ซึ่งหลังจากนี้จะได้ดำเนินงานขับเคลื่อนภารกิจเครือข่ายอนาคตไทยร่วมกันระหว่างมูลนิธิมั่นพัฒนาในนามเครือข่ายอนาคตไทยกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนของจังหวัดขอนแก่น
กิจกรรมต่างๆ ที่ขับเคลื่อนภายใต้โครงการ “อย่าให้ใครว่าไทย” ในจังหวัดขอนแก่น จะเป็นต้นแบบในการขยายผลไปยังจังหวัดอื่นๆ ในภาคอีสาน โดยจะมุ่งส่งเสริมทัศนคติและพฤติกรรมเชิงบวกใน 4 มิติ คือ เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรม
“จังหวัดขอนแก่นถือว่าเป็นจังหวัดที่ประสบความสำเร็จในการเริ่มต้นโครงการนี้ โดยมีทุกภาคส่วนขานรับเข้าร่วมโครงการฯ ขับเคลื่อนการปลุกจิตสำนึกและค่านิยมที่ดีต่างๆ ด้วยการจัดกิจกรรมต่างๆ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นการระเบิดจากภายใน ที่ทุกภาคส่วนในจังหวัดลุกขึ้นมาให้ความสำคัญและดำเนินโครงการร่วมกัน สานต่อไปสู่เป้าหมายที่วางไว้” นางวรรณวิมลกล่าว
ด้านนายศิวาโรจน์ มุ่งหมายผล รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า โครงการ “อย่าให้ใครว่าไทย” ภายใต้ 4 แกนหลัก คือ อย่าให้ใครว่าไทยฟุ้งเฟ้อ อย่าให้ใครว่าไทยขี้โกง อย่าให้ใครว่าไทยไร้สติ และอย่าให้ใครว่าไทยมักง่าย ในระยะแรกจังหวัดขอนแก่นจะมุ่งเน้นในเรื่องการปลุกจิตสำนึกในความเป็นเจ้าบ้านที่ดีต้อนรับผู้มาเยือนจังหวัดขอนแก่น พร้อมทั้งนำร่องโครงการ “อย่าให้ใครว่าคนขอนแก่นฟุ้งเฟ้อ” โดยมุ่งเน้นไปที่เยาวชนไม่ให้หลงกับวัตถุนิยมจนเกินไป จนทำให้รายได้ไม่พอรายจ่ายและไม่มีการออม ใช้เงินเกินตัว มีการรณรงค์ด้วยการติดโปสเตอร์ตามสถานที่ต่างๆ
อีกทั้งยังมีการจัดนิทรรศการ มีการเผยแพร่การรณรงค์ผ่านจอ LED ตามสถานที่ต่างๆ เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ และที่สำคัญในภาคีเครือข่ายแต่ละองค์กรก็จะมีกิจกรรมที่ตรงกับภารกิจหลักขององค์กร
ขณะที่ตัวแทนจากเทศบาลนครขอนแก่นกล่าวเสริมว่า จังหวัดขอนแก่นพร้อมสานต่อโครงการฯ โดยมีเป้าหมายชัดเจนในการเป็น “เจ้าบ้านที่ดี” โดยเครือข่ายที่เข้าร่วม เช่น เครือข่ายแท็กซี่สนามบินขอนแก่นทั้ง 400 คันก็จะเป็น “เจ้าบ้านที่ดี” ไม่เอาเปรียบผู้โดยสาร โดยสร้างการรับรู้จากการติดสติกเกอร์ทุกคัน หรือแม้แต่ในส่วนของเทศบาลนครขอนแก่นเองก็จะประสานขอความร่วมมือกับร้านค้า ร้านอาหาร และบริการในตลาดโต้รุ่งและตลาดอื่นๆ เพื่อรักษาความสะอาดและมีระเบียบวินัย เป็นต้น
รายงานข่าวเพิ่มเติมแจ้งว่า นอกจากพิธีลงนามความร่วมมือขับเคลื่อนโครงการฯ ในภาคเช้าแล้ว ในภาคบ่ายวันเดียวกันนี้ยังได้มีกิจกรรมจัดงานเสวนา และร่วมทำ Workshop ในหัวข้อ “อย่าให้ใครว่าไทย ตอน คิดดี มีตังค์” ณ Convention Hall โรงแรมเซ็นทารา จ.ขอนแก่น การเสวนาดังกล่าวจะสร้างแรงบันดาลใจ กระตุ้นให้เกิดความตระหนักต่อวิกฤต และกระตุ้นพลังบวกของผู้เข้าร่วมกิจกรรม โดยจะมีการพูดคุยเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกันด้วยการสร้างประเด็นคำถาม เพื่อสร้างกระบวนการเรียนรู้กับผู้มีประสบการณ์ ร่วมกับศิลปิน ดารา ในบรรยากาศสนุกสนาน
โดยได้รับเกียรติจาก นายกฤตฏ์ อมรชัยฤกษ์-นักแสดง และนายแบบ, นายท็อป-พิพัฒน์ อภิรักษ์ธนากร นักแสดง และนักธุรกิจเจ้าของร้าน Eco Shop Common, นายพิษณุ นิ่มสกุล (บอย AF), นายธาตรี ลิขนะพิชิตกุล และนายมงคล สกุลเกียรติวัฒนา ตัวแทนจากมูลนิธิมั่นพัฒนา
สำหรับภาคีเครือข่ายอนาคตไทยจังหวัดขอนแก่น ประกอบด้วย สำนักงานจังหวัดขอนแก่น, เทศบาลนครขอนแก่น, หอการค้าขอนแก่น, สภาอุตสาหกรรมขอนแก่น, สมาคมส่งเสริมผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมไทย จ.ขอนแก่น, สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดขอนแก่น, PhotoGangs KhonKaen, สมาคมอสังหาริมทรัพย์ขอนแก่น, สมาคมศิษย์เก่าสาธิต มหาวิทยาลัยขอนแก่น, คณะศึกษาศาสตร์, บ้านชีวาศิลป์,
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น, Biz Club KhonKaen, สโมสรวอลเลย์บอลไอเดียขอนแก่น, โรงแรมเซ็นทาราขอนแก่น, ชมรมเรารักพระราชาตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง, เครือข่ายแท็กซี่สนามบินขอนแก่น และสมาคมจักรยานขอนแก่น ฯลฯ ซึ่งภาคีเครือข่ายทั้งหมดจะมีกิจกรรมอย่างต่อเนื่องต่อไป