รวบแก๊งอินทรีมรกตตระเวนลักทรัพย์โรงแรมพัทยา

ศูนย์ข่าวศรีราชา- รวบ 3 ไนจีเรียตระเวนลักทรัพย์ในโรงแรม เผยมีพฤติกรรมสุดแสบทำตัวเป็น “นินจา” อาศัยจังหวะปลอดคนแอบปีนระเบียงเข้าไปยังห้องพักเหยื่อ แล้วลงมือโจรกรรมทรัพย์สินเผ่นหนี

วันนี้ (27 มี.ค.) พล.ต.ต.อำพล บัวรับพร ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พร้อมกำลังตำรวจ สภ.เมืองพัทยา และกำลังตำรวจท่องเที่ยวพัทยา ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายจาโฮ จาโฮ นอนโซ (Mr.Jaho Jaho Nonso) อายุ 30 ปี นายยูโกชูกวู อีจิมาดู (Mr.Ugochukwu Ejimadu) อายุ 33 ปี และนายโอซาส ซามูเอล (Mr.Osas Samuel) อายุ 30 ปี 3 ผู้ต้องหาชาวไนจีเรียที่ตระเวนก่อเหตุโจรกรรมทรัพย์สินของนักท่องเที่ยวตามห้องพักโรงแรมในเมืองพัทยา

พล.ต.ต.อำพล กล่าวว่า ในช่วงระหว่างเดือน ส.ค. ถึงเดือน ก.ย.2558 และเดือน มี.ค.2559 มีผู้บริหาร และผู้จัดการโรงแรมนับ 10 แห่ง ในเขตเมืองพัทยา เดินทางเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่า มีชายชาวต่างชาติลักษณะผิวดำแฝงตัวเป็นนักท่องเที่ยวเข้ามาเปิดห้องพักในโรงแรม แล้วก่อเหตุลักทรัพย์ตามห้องพักของนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ จนเกิดความเสียหายด้านการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก

จึงเร่งออกหาข่าว และตรวจสอบกล้องวงจรปิดจนทราบข้อมูลว่า กลุ่มคนร้ายเป็นชาวไนจีเรีย จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลจังหวัดพัทยา เข้าจับกุม นายจาโฮ จาโฮ นอนโซ และพวกได้ก่อนหลบหนีออกนอกประเทศ

สำหรับแนวทางการสืบสวนทราบว่า กลุ่มผู้ต้องหาเดินทางเข้ามาประเทศไทยในฐานะนักท่องเที่ยว โดยพฤติกรรมจะทำทีเช็กอินเข้าพักในโรงแรม จากนั้นในตอนกลางคืนจะอาศัยจังหวะปลอดคนแอบปีนระเบียงไต่ไปตามขอบตึกเพื่อเข้าไปยังห้องพักของเหยื่อที่เลือกเป้าหมายไว้ก่อนหน้านี้แล้วทำการโจรกรรมทรัพย์สิน

จากนั้นจะรีบเช็กเอาต์ออกก่อนเผ่นหนีไปกบดานตามโรงแรมเล็กๆ ส่วนทรัพย์สินที่ได้จะนำมาแบ่งกัน โดยบางส่วนจะเก็บไว้ใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน บางส่วนจะหาวิธีส่งกลับไปให้ครอบครัวที่ประเทศบ้านเกิด

จากการตรวจสอบประวัติพบว่า เคยก่อเหตุลักทรัพย์ตามโรงแรมต่างๆ ในเมืองพัทยามาแล้ว จำนวน 8 ครั้ง รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 454,800 บาท

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา นายจาโฮ จาโฮ นอนโซ ในฐานความผิดลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืน และเป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต

ส่วน นายยูโกชูกวู อีจิมาดู และนายโอซาส ซามูเอล เบื้องต้น แจ้งข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตไว้ก่อน และกำลังอยู่ในระหว่างรวบรวมหลักฐานเพื่อเอาผิดในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ฯ ก่อนส่งตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป