พิจิตร - ปฏิบัติการเติมน้ำชุบชีวิต “บึงสีไฟ” หนึ่งในพื้นที่ชุ่มน้ำนานาชาติที่แห้งผากจนดินแตกระแหงแบบไม่น่าเชื่อ เริ่มแล้ว ล่าสุด ผู้ว่าฯ นำคณะเปิดประตูรับน้ำจากเขื่อนสิริกิติ์ 4.3 ล้านคิวเข้าบึง ขณะที่แผนเจาะบ่อบาดาลอังคารนี้ (29 มี.ค.) เริ่มเห็นผลแน่
นางฉัตรพร ราษฎร์ดุษดี ผู้ว่าฯพิจิตร นายธรรมนูญ แจ่มศรี เกษตรและสหกรณ์จังหวัดพิจิตร พร้อมด้วย นายสมยศ แสงมณี ผู้อำนวยการโครงการชลประทานพิจิตร รวมถึง พ.ท.คมจักร ชัยชนะ สัสดีอำเภอเมืองพิจิตร ผู้แทน กกล.รส.มทบ.36 ได้ร่วมกันเปิดประตูน้ำคลองชลประทาน C1 ในวันหยุดสุดสัปดาห์นี้ เพื่อรับน้ำจากเขื่อนสิริกิติ์ จำนวน 4.3 ล้านคิว ส่งต่อผ่านมายังโครงการชลประทานพลายชุมพล จ.พิษณุโลก โครงการชลประทานดงเศรษฐี จ.พิจิตร เข้าบึงสีไฟ แหล่งชุ่มน้ำนานาชาติที่มีพื้นที่กว่า 5,300 ไร่ และเป็นที่ตั้งของสวนสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือสวนสมเด็จย่า ที่ประสบต่อปัญหาภัยแล้ง น้ำแห้งขอด ผืนดินแห้งแตกระแหง ส่งผลให้ระบบนิเวศ และการท่องเที่ยวเสียหายอย่างย่อยยับ
นอกจากนี้ ในจุดท่องเที่ยวสวนสมเด็จย่า ก็ได้มีการว่าจ้าง “ช่างหนูเมืองพิจิตร” เจาะบ่อน้ำบาดาล ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางท่อ 8 นิ้ว จำนวน 5 บ่อ ซึ่งช่างหนู ทำบริจาคให้ฟรีอีก 1 บ่อ รวมเป็น 6 บ่อ อีกทั้งกรมทรัพยากรน้ำบาดาลเขต 7 ก็จะมาเจาะบ่อน้ำบาดาลเพิ่มให้อีก 3 บ่อ รวมเป็น 9 บ่อ ดึงน้ำใต้ดินมาไว้ใช้ในการดูแลสวนหย่อม และต้นไม้ รวมถึงภูมิทัศน์โดยรอบของสวนตลอดทั้งปี
โดยคาดว่าในอังคารที่ 29 มี.ค.59 นี้ การเจาะบ่อน้ำบาดาลจะมีน้ำจากใต้ดินขึ้นมาให้เห็นได้อย่างน้อย 2 บ่อ ในส่วนของรัศมี 100 ไร่เศษ ที่เป็นจุดท่องเที่ยว ซึ่งเป็นที่ตั้งของศาลาเก้าเหลี่ยม และศาลาชมบึงสีไฟ ก็จะมีการยกคันดินล้อมรอบเพื่อกักเก็บน้ำไว้ในจุดดังกล่าวด้วย