พิษณุโลก - ผบช.ภ.6 สั่งรายงานความคืบหน้าคดี 3 ตำรวจเมืองสองแควไล่ยิง-ซ้อม นศ.ปางตายกลางเมือง เผยหลังโดนสั่งให้ออกจากราชการ เจอดำเนินคดีเพิ่มเป็น 6 ข้อหา ขณะที่เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดดูจุดไล่ยิงรอบเมือง
วันนี้ (25 มี.ค.) พ.ต.อ.สารนัย คงเมือง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก และรักษาราชการแทนผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองพิษณุโลก กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีตำรวจที่ไล่ยิงและซ้อมนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม และ ผบช.ภ.ได้สั่งให้ตำรวจ 3 นายออกจากราชการทันที ได้แก่ ส.ต.อ.สุบิณ นุชขำ ผบ.หมู่ กก.สส.ภ.จว.พิษณุโลก, ร.ต.ท.ธนาคาร ชัยพิพัฒน์ สังกัดกลุ่มงานสืบสวน ภ.จว.พิษณุโลก และ ร.ต.อ.วุฒิภัทร บัวอุไร สังกัดกลุ่มงานสืบสวน ภ.จว.พิษณุโลก
พ.ต.อ.สารนัยระบุว่า หลังจากทางผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 ได้สั่งปลด 3 นายตำรวจที่มีพฤติกรรมดังกล่าวแล้ว ก็ได้ดำเนินคดีใน 6 ข้อหา คือ ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น, ทำให้ผู้อื่นเสื่อมเสียเสรีภาพโดยมีอาวุธปืน, กักขังหน่วงเหนี่ยว, ทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจและได้รับอันตรายสาหัส, พกพาอาวุธปืนไปในเมืองหรือหมู่บ้าน หรือสาธารณะโดยไม่มีเหตุจำนวนเร่งด่วนและไม่ได้รับอนุญาต และยิงปืนโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมชน
ต่อกรณีข้อสงสัยการเปลี่ยนอาวุธปืน และการเปลี่ยนป้ายทะเบียนรถของอดีตตำรวจทั้ง 3 นาย ในวันก่อเหตุนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการสอบสวนอย่างชัดเจนทุกอย่างเพื่อให้ความเป็นธรรม และตอบข้อสงสัยของสังคมได้ ทางผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 ได้กำชับมาโดยตลอดว่าให้ทำคดีนี้อย่างโปร่งใส และรายงานให้ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 ทราบทุกๆ 15 วัน
โดยในวันนี้ (25 มี.ค.) ทางเจ้าหน้าที่จะมีการไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตั้งแต่ที่เกิดเหตุที่มีการยิงครั้งแรกบริเวณถนนธรรมบูชา ใต้สะพานสูง ไปจนถึงจุดบริเวณซ้อมนักศึกษา เพื่อให้คดีครอบคลุมให้มากที่สุด คาดว่าจะสามารถรวบหลักฐานเพิ่มเติมได้ภายใน 2-3 วัน
ส่วนอดีตตำรวจทั้ง 3 รายได้รับทราบข้อกล่าวหา และได้ปล่อยตัวออกไปตามกฎหมายใหม่ เพื่อไปสู้คดีในชั้นศาล ในกรณีที่ผู้เสียจะหวั่นวิตกว่าจะมีการข่มขู่นั้นคงสบายใจได้ เนื่องจากผู้ต้องหาทั้ง 3 รายไม่ใช่เจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว สถานภาพเป็นเพียงบุคคลธรรมดาเช่นกัน หากมีการคุกคามจริงเจ้าหน้าที่ตำรวจจะไปคุ้มครองผู้เสียหาย หรือพยานอีกครั้ง
