เชียงราย - มทบ.37 ส่งกำลังพลเสริมเจ้าหน้าที่สำนักอนุรักษ์ฯ-ฝ่ายปกครอง ลุยป้องกัน-ปราบปรามคนเผาป่า หลังหมอกควันคลุ้ง-ฝุ่นละอองในอากาศพุ่งสูง พบมือเผาไม่ยอมหยุด แถมมีงัดยากันยุงมาจุดไฟวางเป็นหมุดกลางป่ารอไฟลุกลาม
วันนี้ (24 มี.ค.) พ.อ.จรัส ปัญญาดี รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 37, นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 เชียงราย, ว่าที่ ร.ต.ภูษิต ไชยทอง นายอำเภอเมืองเชียงราย ร่วมกันปล่อยแถวกองกำลังผสมระหว่างทหาร สำนักงานบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 และฝ่ายปกครอง จากมณฑลทหารบกที่ 37 จ.เชียงราย
ทั้งนี้ เพื่อป้องกัน และปราบปรามการกระทำผิดด้วยการเผาป่าในช่วงที่เกิดปัญหาฝุ่นละออง และหมอกควันหนาแน่น เนื่องจากยังมีการลักลอบเผาตามจุดต่างๆ อยู่ ขณะที่กรมควบคุมมลพิษตรวจวัดคุณภาพอากาศในช่วงเช้า พบว่า เขต อ.เมืองมีค่าฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอนในอากาศสูงถึง 184 ไมโครกรัม/ลบ.ม. และ อ.แม่สายวัดได้ 294 ไมโครกรัม/ลบ.ม.
ปฏิบัติการนี้เจ้าหน้าที่ทหารจะสนับสนุนเจ้าหน้าที่อนุรักษ์ในการตรวจสอบตามเขตป่าอนุรักษ์ต่างๆ โดยเฉพาะพื้นที่ อ.เมืองที่มีป่าอนุรักษ์หลายแห่ง ที่มีผู้ลักลอบนำเผาป่า เช่น พื้นที่ ต.ป่าอ้อดอนชัย มีการใช้ยาจุดกันยุงที่หักจนสั้นแล้วจุดไฟก่อนนำไปปักไว้ในผืนป่าที่มีวัชพืช-ใบไม้แห้งปกคลุม เพื่อรอให้เกิดเปลวเพลิงลุกลาม ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจพบและเก็บหลักฐานได้เมื่อ 23 มี.ค.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 17 ก.พ.-23 มี.ค.ที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 ตรวจพบจุดไฟไหม้ หรือฮอตสปอตในพื้นที่เชียงราย รวม 65 ครั้ง และเฉพาะวันที่ 23 มี.ค.เพียงวันเดียวพบว่าเกิดฮอตสปอตมากถึง 31 ครั้ง รวมเนื้อที่ประมาณ 706 ไร่ จนต้องขอกำลังเจ้าหน้าที่ทหารและฝ่ายปกครองร่วมกันออกปราบปรามดังกล่าว
พ.อ.จรัสกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้จัดกำลังรองรับมาตรการห้ามเผาไว้ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 59 แล้ว โดยประจำอยู่ทุกพื้นที่ 18 อำเภอของ จ.เชียงราย แต่เมื่อเกิดการลักลอบเผาอยู่ และทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้ร้องขอกำลังมา จึงได้ร่วมกันจัดเป็นกองกำลังพิเศษเพื่อกดดันคนเผาป่าหรือล่าสัตว์ป่า เพราะการกระทำดังกล่าวทำให้เกิดวิกฤตของอากาศตามที่ประสบกันอยู่ในปัจจุบัน
“ปฏิบัติการนี้คาดว่าใช้เวลาประมาณ 3-5 วัน ก็คงจะทำให้สถานการณ์เบาบางลง ซึ่งเจ้าหน้าที่จะใช้วิธีการโดยละมุนละม่อมเอาใจเขามาใส่ใจเรา แต่หากพบการกระทำผิดก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย”
ด้านนายนิพนธ์กล่าวว่า ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายได้พยายามควบคุมไม่ให้เกิดการเผาขึ้น แต่ก็ยังมีการลักลอบกระทำผิดกันอยู่ โดยสาเหตุอาจมีทั้งการเผาหาของป่า ล่าสัตว์ หรือกลั่นแกล้งกันเป็นนิสัย ทำให้ต้องขอกำลังเจ้าหน้าที่ทหารและฝ่ายปกครองออกไปร่วมกันปราบปราม หรือป้องปรามให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่เอาจริงเอาจังในเรื่องนี้มาก
“โดยเฉพาะกรณีบางพื้นที่ที่ใช้ยากันยุงวางเป็นหมุดไฟที่ ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมืองเชียงราย ที่มีการลักลอบวางกันในระยะ 500-1,000 เมตร จำเป็นต้องไม่ให้เกิดขึ้นอีก”
ขณะที่ ว่าที่ ร.ต.ภูษิตกล่าวว่า ทางจังหวัดยังคงใช้มาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษจากหมอกควันไฟป่าและงดการเผาในที่โล่งทุกชนิดตั้งแต่วันที่ 17 ก.พ.-16 เม.ย. 2559 เป็นระยะเวลา 60 วัน อย่างต่อเนื่อง โดยในส่วนของ อ.เมือง เดิมคาดว่าจะเกิดขึ้นในพื้นที่ป่าแถบ ต.ห้วยชมภู แต่ปรากฏว่ากลับมาเกิดมากใน ต.ป่าอ้อดอนชัย และ ต.บ้านดู่ ซึ่งเป็นพื้นที่ราบ จึงต้องมีการขอกำลังเจ้าหน้าที่ทหารมาเพิ่ม