จันทบุรี - สถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่จันทบุรีรุนแรง ขาดแคลนน้ำเพื่อการเกษตร เทศบาลตำบลพลับพลา เร่งจัดสร้างเขื่อนขนาดกลางเก็บกักน้ำ ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ และเดินท่อระยะไกลเพื่อสูบน้ำจากแม่น้ำจันทบุรี ลงสู่แหล่งน้ำสาธารณะเพื่อกระจายน้ำไปช่วยเหลือชาวบ้าน
วันนี้ (23 มี.ค.) เมื่อเวลา 14.30 น. นายมณเฑียร วานิชศรี นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลพลับพลา ได้นำสื่อมวลชนลงพื้นที่ไปดูการจัดสร้างเขื่อนขนาดกลางที่กำลังดำเนินการก่อสร้างอยู่ เพื่อใช้ในการเก็บกักน้ำ หลังสถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่ตำบลพลับพลา กำลังเป็นปัญหาหนัก ชาวบ้านขาดแคลนน้ำเพื่อการเกษตรในการนำมาบำรุงต้น หลังผลผลิตในช่วงนี้กำลังให้ผลผลิต ความต้องการน้ำของชาวบ้านจึงมีความสำคัญ และมีความต้องการมาก เพราะในพื้นที่ตำบลพลับพลา มีพื้นที่การเกษตรประมาณ 8,000 ไร่ ชาวบ้านส่วนใหญ่มีอาชีพการเพาะปลูกผลไม้ขาย
ในเบื้องต้น ทางเทศบาลตำบลพลับพลา ได้เข้าไปแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าโดยการติดตั้งเครื่องสูบน้ำ และเดินท่อระยะไกล สูบน้ำจากแม่น้ำจันทบุรี ลงสู่แหล่งน้ำสาธารณะ ก่อนจะกระจายน้ำเข้าสู่สวนผลไม้ของชาวบ้าน ซึ่งสถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี ณ เวลานี้ถือว่ารุนแรงกว่าทุกปี หลังจังหวัดจันทบุรี ได้มีการประกาศพื้นที่ประสบภัยแล้งทั้งจังหวัด 10 อำเภอแล้ว และคาดว่าอาจจะมีความรุนแรงมากขึ้นเนื่องจากยังไม่มีฝนตกลงมา โดยเฉพาะพื้นที่ประสบภัยแล้งซ้ำซากทุกปี คือ อำเภอโป่งน้ำร้อน และอำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี
ในเรื่องนี้ นายมณเฑียร วานิชศรี นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลพลับพลา กล่าวว่า ตอนนี้ในเขตเทศบาลตำบลพลับพลา ก็ได้มีการประกาศภัยแล้งทั้งตำบล หรือ 10 หมู่บ้าน ซึ่งในช่วงนี้น้ำในสระ และน้ำในบ่อก็ลดระดับลงมาก ซึ่งพื้นที่ตำบลพลับพลาส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่สวนผลไม้ประมาณ 8,000 ไร่ ที่ต้องการน้ำ เช่น สวนมังคุด ทุเรียน
ส่วนเรื่องของการแก้ไขเบื้องต้น ทางเทศบาลตำบลพลับพลา ก็ได้มีการสูบน้ำจากสระน้ำเอกชนลงมาเติมในคลองพลับพลา และอีกส่วนหนึ่งก็ได้มีการสูบน้ำจากแม่น้ำจันทบุรี เอามาลงสู่คลองหนองตาพุฒ และดูดจากคลองหนองตาพุฒไปแจกจ่ายให้แก่พี่น้องชาวตำบลพลับลพลา ตามสวน
นอกจากนี้ แผนระยะยาวทางเทศบาลตำบลพลับพลา ได้มีการของบประมาณจากกรมชลประทานที่ 19 มาสร้างเขื่อนขนาดกลางบริเวณคลองพลับพลา กับคลองโป่งแรด ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ถ้าแล้วเสร็จก็จะช่วยเหลือให้ชาวบ้านมีน้ำใช้อย่างเพียงพอต่อไป
