เชียงราย - ผอ.สำนักอนุรักษ์ที่ 15 ยันตรวจข้อมูลดาวเทียมแล้ว “แม่สาย” ไม่เคยมี Hot spot มานานนับสิบปี เชื่อลมพัดหมอกควันไฟป่าจากนอกพื้นที่เข้ามา จนค่า PM10 พุ่งต่อเนื่อง ล่าสุดวันนี้ยังอยู่ในระดับสูงถึง 171 ไมโครกรัม/ลบ.ม.
วันนี้ (18 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภาพอากาศทั่วพื้นที่ จ.เชียงราย ส่วนใหญ่ยังอยู่ในเกณฑ์คุณภาพอากาศปานกลางภายหลังจากจังหวัดได้ออกมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษจากหมอกควันไฟป่าและงดการเผาในที่โล่งทุกชนิดตั้งแต่วันที่ 17 ก.พ.-วันที่ 16 เม.ย. 2559 หรือตลอดระยะเวลา 60 วันที่มักเกิดปัญหาฝุ่นละอองและหมอกควันหนาแน่นเป็นประจำทุกปี
กรมควบคุมมลพิษรายงานสภาพอากาศช่วงเช้าว่า มีปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอน (PM10) ในอากาศในเขต อ.เมืองเชียงราย ในระดับ 119 ไมโครกรัม/ลบ.ม. แต่พื้นที่ อ.แม่สาย ชายแดนไทย-พม่า ยังคงมีปริมาณ 171 ไมโครกรัม/ลบ.ม. เกินค่ามาตรฐานความปลอดภัยต่อสุขภาพซึ่งกำหนดให้อยู่ในระดับ 120 ไมโครกรัม/ลบ.ม. ท้องฟ้าเหนือชุมชนหนาแน่นทั้ง อ.แม่สาย และเมืองท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า เต็มไปด้วยหมอกควันไฟป่า
ด้านนายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 เชียงราย กล่าวว่า หลังเกิดหมอกควันไฟป่าปกคลุมชายแดนแม่สายหนาแน่น เจ้าหน้าที่ได้ใช้การตรวจด้วยระบบดาวเทียม เพื่อหา Hot spot หรือจุดความร้อน ปรากฏว่าตั้งแต่เดือนมกราคม ถึงวันที่ 18 มี.ค.ไม่เคยมี Hot spot เลยแม้แต่ครั้งเดียว
เมื่อดูสถิติย้อนหลังไปในรอบ 10 ปี ก็พบว่าไม่เคยเกิดปรากฏการณ์นี้ขึ้นที่ อ.แม่สาย มาก่อนเช่นกัน รวมทั้งประชาชนทั่วไปต่างก็ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการไม่เผาตามมาตรการหยุดเผา 60 วัน (17 ก.พ. - 16 เม.ย. 59) ด้วย
ดังนั้น ฝุ่นละอองและหมอกควันที่เกิดขึ้นจึงมาจากกระแสลมที่พัดพากันไปมา โดยเฉพาะเมื่อเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกันด้วยแล้ว ก็ยากที่จะควบคุมได้
รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านี้คณะกรรมการประสานงานชายแดนไทย-พม่า หรือทีบีซี ฝ่ายไทย ได้หยิบยกเรื่องการขอความร่วมมืองดการเผาในช่วงนี้หารือในที่ประชุมร่วมกับทีบีซีฝ่ายพม่ามาอย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายต่างก็ยืนยันจะให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยเฉพาะทางฝั่งพม่าการประกาศแจ้งเตือนประชาชนด้วยเช่นกัน แต่เนื่องจากในพื้นที่ตอนในของพม่ามีความกว้างขวางและมีหลากหลายกลุ่มชน บางจุดเกิดไฟป่าขึ้นเองตามธรรมชาติหรือมีการเผาไร่ทำสวนเหมือนเดิมอยู่