พบปลาสลิดหินตายเกลื่อนหาดตากวน-อ่าวประดู่

ระยอง - พบปลาสลิดหิน ตายเกลื่อนหาดตากวน-อ่าวประดู่ ระยะทางยาว 1.5 กม. ส่งกลิ่นเหม็นคลุ้ง โดยกลุ่มประมงตากวน-อ่าวประดู่ เรียกร้องหน่วยงานเกี่ยวข้องตรวจสอบข้อเท็จจริง หลังสุดทนเกิดเหตุปลาตายซ้ำซากติดต่อกัน 5 ปี แต่ไม่มีใครออกมาชี้แจงข้อเท็จจริง

วันนี้ (15 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากกลุ่มประมงตากวน-อ่าวประดู่ ตำบลมาบตาพุด อำเภอเมืองระยอง ว่า มีปลาสลิดหิน หรือที่เรียกกันว่า “ไอ้พี้” ตายเกลื่อนแนวชายหาดบริเวณปากคลองชากหมาก-หาดทรายทอง รวมระยะทาง 1.5 กิโลเมตร จนส่งกลิ่นเหม็นเน่าไปทั่ว จึงเดินทางพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง

ไปถึงพบปลาสลิดหิน ขนาดลำตัวมีประมาณ 10 เซ็นติเมตร ประมาณ 1-2 ตัน ตายเกลื่อนหาดในสภาพเหงือกปลามีคราบสีดำติดอยู่ เจ้าหน้าที่ประมงต้องเร่งเก็บตัวอย่างปลา และตัวอย่างน้ำทะเลไปตรวจสอบที่ศูนย์วิจัยทางทางทะเลชายฝั่งตะวันออก นอกจากนั้น ยังได้เก็บตัวอย่างน้ำในคลองชากหมาก ไปตรวจสอบ ก่อนที่กลุ่มประมงพื้นบ้านเรือเล็กอ่าวตากวน -อ่าวประดู่ จะช่วยกันฝังกลบปลาตายทั้งหมด

จากการสอบถามกลุ่มประมงพื้นบ้านที่หากินรอบนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ทราบว่า เหตุการณ์ปลาสลิดหินตายเกลื่อนหาดจะเกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี แต่ในปีนี้มีปลาสลิดหินตายมากเป็นประวัติการณ์ ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถระบุสาเหตุที่เกิดขึ้นได้ รวมทั้งยังไม่สามารถสรุปได้ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของชาวประมงหรือไม่

“ทุกครั้งที่เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ก็มักจะมีเสียงโจษขานกันหนาหูว่า น้ำในคลองชากหมากปนเปื้อนสารพิษจากโรงงานอุตสาหกรรมที่ไหลลงสู่ทะเล ซึ่งที่ผ่านมา หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ไม่เคยออกมาชี้แจงว่าเกิดจากอะไร และไม่มีใครกล้าพูด เพราะฉะนั้นจึงขอเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อแถลงข่าวให้ชัดเจน” กลุ่มประมงพื้นบ้าน กล่าว

ด้าน นายจำรัส เณรทอง ผู้อำนวยการท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้เก็บตัวอย่างน้ำในคลองชากหมากไปตรวจพิสูจน์ว่ามีสารปนเปื้อนหรือไม่แล้ว แต่จากการดูสภาพน้ำในคลองยังพบว่า มีความใสเป็นปกติ และจากการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรณีเหงือกปลาที่มีคราบสีดำติดอยู่

ทั้งนี้ คาดว่าพื้นท้องทะเลอาจมีแก๊ส ประกอบกับช่วงนี้สภาพอากาศร้อนจึงทำให้แก๊สผุดขึ้นจากใต้ทะเล และเมื่อเป็นช่วงน้ำลงก็ทำให้ปลาสลิดหินซึ่งเป็นปลาประจำถิ่นที่อยู่รวมกันเป็นฝูง หายใจเอาแก๊สเข้าไปจนทำให้ขาดอากาศหายใจ และตายเป็นจำนวนมาก

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้เก็บตัวอย่างปลา และน้ำทะเล รวมทั้งน้ำในคลองชากหมาก ไปตรวจสอบเพื่อหาข้อสรุปอีกครั้ง