เชียงราย - จังหวัดเชียงราย เตรียมพร้อมจัดงาน “เตียวขึ้นดอย ตวยฮอยครูบา ไหว้สาพระธาตุดอยตุง 59” ยิ่งใหญ่ โชว์ทั้งขบวนแห่รัตนสัตตนัง กลุ่มชาติพันธุ์ และขบวนตุงยาว แถมตั้งแท่นพิธีตักน้ำทิพย์ สมโภชน้ำทิพย์ สืบชะตารวมพลคนปีกุนพร้อมสรรพ
วันนี้ (15 มี.ค.) นายประจญ ปรัชญ์สกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย, นายอมร กิตติกวางทอง วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย, อาจารย์ประพันธ์ จุมคำมูล ผู้ประพันธุ์เพลงดอยตุง ร่วมแถลงข่าวเตรียมจัดงานประเพณีนมัสการและสรงน้ำพระธาตุดอยตุงประจำปี 2559 ระหว่างวันที่ 21 - 22 มี.ค.นี้ ภายใต้สโลแกน “เตียวขึ้นดอย ตวยฮอยครูบา ไหว้สาพระธาตุดอยตุง”
นายประจญ กล่าวว่า พระธาตุดอยตุง มีความเป็นมาที่ยาวนาน และถือเป็นพระธาตุไม่กี่แห่งที่เป็นลักษณะพระธาตุคู่ ซึ่งถือว่าหาได้ยากมาก และที่ผ่านมา ทั้งพุทธศาสนิกชน ประชาชนทั่วไปทั้งฝั่งไทยและประเทศเพื่อนบ้านต่างเลื่อมใสในองค์พระธาตุ ก่อให้เกิดประเพณีการเดินขึ้นดอยตุง เพื่อนมัสการพระธาตุดอยตุง มาอย่างต่อเนื่องยาวนาน
ดังนั้น ในปี 2559 ทางจังหวัดฯ จึงจะจัดงานขึ้นให้ยิ่งใหญ่ โดยทำการปรับปรุงเส้นทางเดิน ซุ้ม ป้าย ศาลาที่พักตามจุดต่าง ๆ ที่เดินขึ้น รวมระยะทางประมาณ 9 กิโลเมตร และมีทางบันไดขึ้นสู่พระธาตุอีกประมาณ 800 เมตร
ด้าน นายอมร กล่าวว่า การขึ้นไปนมัสการ และสรงน้ำพระธาตุดอยตุง สามารถเดินทางขึ้นไปได้ทั้งทางรถยนต์ และเดินเท้าขึ้นดอย เพื่อสืบสานประเพณีมาแต่โบราณ โดยปีนี้จะจัดให้มีขบวนแห่รัตนสัตตนัง กลุ่มชาติพันธุ์ 18 ชาติพันธุ์ ขบวนถือตุงที่มีความยาว 32 เมตร เพื่อย้อนตำนานตามเชื่อของดอยตุงในอดีต โดยจะเริ่มเดินจากโรงเรียนบ้านห้วยไคร้ใหม่ ต.ห้วยไคร้ อ.แม่สาย ขึ้นสู่พระธาตุตามลำดับ
ส่วนบริเวณเชิงวัดน้อย ก่อนขึ้นสู่พระธาตุ จะมีการแสดงจาก 4 ชาติ ที่ไปร่วมแสดงในงาน “มหกรรมวัฒนธรรมวิถีถิ่น วิถีไทย” ระหว่าง 18 - 22 มี.ค.นี้ ณ สนามฝึกนักศึกษาวิชาทหาร อ.เมืองเชียงราย รวมถึงการแสดงซอพื้นเมืองล้านนาตลอดงาน และบริเวณพระธาตุยังมีพิธีตักน้ำทิพย์ สมโภชน้ำทิพย์ สืบชะตารวมพลคนปีกุน เนื่องจากพระธาตุดอยตุง เป็นพระธาตุประจำปีกุน ตลอดจนการสรงน้ำและสักการพระธาตุ
ทั้งนี้ ก่อนกิจกรรมเดินขึ้นดอยตุงจะมีกิจกรรมปฏิบัติธรรม และผ้าป่าบูชาพระสิงห์ 1 ปรกโพธิ์ ณ วิหารวัดพระธาตุดอยตุงตั้งแต่วันที่ 19 มี.ค.ซึ่งพุทธศาสนิกชน สามารถไปร่วมสักการะได้
อาจารย์ประพันธ์ กล่าวว่า พระธาตุดอยตุง เป็นพระธาตุศักดิ์สิทธิ์ มีความเป็นมาว่า พระมหากัสสปะ ซึ่งเป็นพระอรหันต์ครั้นพุทธกาล ได้นำพระบรมสารีริกธาตุ มามอบให้กับพระเจ้าอชุตราช กษัตริย์องค์ที่ 3 ของอาณาจักรโยนกนาคพันธ์ ซึ่งพระเจ้าอชุตราชได้เสี่ยงทายด้วยการนำตุงยาว 7,000 วา ไปปักเอาไว้ เพื่อหาจุดสร้างพระธาตุ ก็ได้ตรงยอดดอยตุงในปัจจุบันนั่นเอง
ต่อมาอีก 100 ปี มีพระอรหันต์อีกรูป นำพระบรมสารีริกธาตุมามอบให้กับพระเจ้ามังราย กษัตริย์ที่ครองราชสืบต่อกันมาอีก ทำให้มีการสร้างเป็นประธาตุคู่แฝดกันมา จนปี 2470 ครูบาศรีวิชัย นักบุญล้านนา ได้บูรณะทำให้พุทธศาสนิกชน ร่วมกันจัดประเพณีนี้สืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน
