บุรีรัมย์/สุรินทร์ - ภัยแล้งยังคุกคามหนัก อ่างเก็บน้ำใหญ่ และกลาง 16 แห่งบุรีรัมย์ ลดต่อเนื่อง และอ่างสำคัญ 4 แห่ง ปริมาณน้ำต่ำกว่า 30 % กระทบน้ำดิบผลิตประปาต้องหาแหล่งน้ำอื่นสำรอง วอนปชช.ใช้น้ำประหยัดให้ผ่านพ้นหน้าแล้ง ขณะที่เมืองช้างแล้งหนัก อาชีพพ่อค้าเร่ขายน้ำเฟื่องยอดขายพุ่ง สร้างรายได้งามถึงวันละ 1,600- 2,000 บาท หลังแหล่งน้ำดิบประปาหลายหมู่บ้านแห้ง
วันนี้ (14 มี.ค.) นายกิติกุล เสภาศีราภรณ์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานจ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า จากสถานการณ์ภัยแล้งที่คุกคามอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับสภาพอากาศที่ร้อนจัดในช่วงนี้ ส่งผลให้ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำทั้งขนาดใหญ่ และขนาดกลางในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์รวมทั้งหมด 16 แห่ง มีปริมาณลดต่ำลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในจำนวนนี้มีอ่างเก็บน้ำที่มีระดับน้ำกักเก็บต่ำกว่าร้อยละ 30 ของปริมาณความจุอ่างอยู่จำนวน 4 แห่ง คือ อ่างเก็บน้ำห้วยตลาด อ่างเก็บน้ำหนองทะลอก อ่างเก็บน้ำห้วยน้อย และอ่างเก็บน้ำห้วยขี้หนู ทำให้เริ่มส่งผลกระทบกับน้ำดิบผลิตประปาบริการประชาชนแล้ว
โดยเฉพาะอ่างเก็บน้ำหนองทะลอก ขณะนี้ไม่สามารถสูบขึ้นมาผลิตประปาบริการประชาชนในเขตเทศบาลเมืองนางรองได้ ทำให้ทางการประปาส่วนภูมิภาคต้องดึงน้ำจากลำมาศมากักเก็บไว้ผลิตประปาแทนเพื่อให้ประชาชนได้มีน้ำอุปโภคบริโภคตลอดช่วงหน้าแล้งนี้
ส่วนอ่างเก็บน้ำอื่นจะได้ประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากพบระดับน้ำต่ำอยู่ในภาวะเสี่ยงที่จะไม่เพียงพอ จะเร่งหามาตรการรองรับเพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค
ขณะนี้ภาพรวมปริมาณน้ำในอ่างทั้ง 16 แห่ง เหลือน้ำกักเก็บอยู่ประมาณ 151 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือเฉลี่ย 52 % ของปริมาณความจุอ่าง 291 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งมั่นใจว่าน้ำที่เหลือจะเพียงพอผลิตประปาบริการประชาชนได้ถึงเดือนพฤษภาคม
“แต่หากฝนมาล่าช้ากว่าปกติอาจทำให้เกิดภาวะเสี่ยงได้ จึงอยากร้องขอให้ประชาชนใช้น้ำอย่างประหยัด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะวิกฤตขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค” นายกิติกุล กล่าว ในตอนท้าย
ขณะที่ จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์ภัยแล้งจ.สุรินทร์ ล่าสุดแหล่งน้ำในหลายพื้นที่แห้งขอด โดยเฉพาะ แหล่งน้ำดิบผลิตประปาชุมชนและหมู่บ้านในต่างอำเภอหลายแห่งประสบปัญหาขาดน้ำดิบผลิตประปาส่งผลประชาชนในพื้นที่ขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค แม้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดมรถบรรทุกน้ำออกแจกจ่ายแต่ไม่ทั่วถึง ประชาชนต้องดิ้นรนซื้อน้ำจากพ่อค้ารถบรรทุกน้ำเร่ขายเพื่อใช้ในครัวเรือน ทำให้บรรดาพ่อค้าบรรทุกน้ำเร่ขายมีรายได้ดี กลายเป็นอาชีพเฟื่องฟูในช่วงหน้าแล้ง
โดยเฉพาะ นายโกศล กองสุข อายุ 65 ปี พ่อค้าเร่ขายน้ำ อยู่บ้านเลขที่ 16/1 ม.5 บ.โนนสูง ต.บะ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ซึ่งได้ขุดบ่อน้ำในพื้นที่นาของตัวเอง ติดกับ ห้วยระวี บ.หนองสิม ม.14 ต.บะ อ.ท่าตูม สูบน้ำไปขาย สร้างรายได้งามถึงวันละ 1,600- 2,000 บาท
นายโกศล กองสุข อายุ 65 ปี กล่าวว่า ประกอบอาชีพบรรทุกน้ำเร่ขายมากว่า 10 ปีแล้ว เมื่อก่อนขายไม่ดีเพราะไม่แล้งหนักขนาดนี้ แต่ 2 ปีมานี้ขายน้ำได้ดีมากเพราะแล้งหนัก ฝนไม่ตกตามฤดูกาล แหล่งน้ำต่างๆ แห้งขอด ชาวบ้านจึงขาดน้ำอุปโภคบริโภค โดยตนขายถังละ 120-150 บาทถึงอยู่กับระยะทาง ในเขตพื้นที่ ต.บะ และ ต.เมืองแก อ.ท่าตูม แต่ละวันขายได้ 4-5 เที่ยวๆ ละ 3 ถัง รวมเงินรายได้เที่ยวละประมาณ 360 - 450 บาท โดยเริ่มเร่ขายน้ำมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว คาดว่าจะขายไปจนถึงเดือนพฤษภาคม หากฝนไม่ตกคงบรรทุกน้ำเร่ขายต่อไปเรื่อยๆ ตามที่ชาวบ้านโทรศัพท์มาสั่งให้ไปส่งหลังใช้น้ำหมด