สุรินทร์- ผู้ว่าฯ สุรินทร์ นำช้างแสนรู้ 19 เชือก ร่วมประชาชน และนักท่องเที่ยวทำบุญตักบาตรแด่พระสงฆ์ สามเณร 30 รูป ใน “วันช้างไทย” 13 มีนาคม อุทิศส่วนกุศลให้แก่บรรพบุรุษช้าง และควาญช้างคนเลี้ยงช้างผู้ล่วงลับ เพื่อรำลึกถึงคุณงามความดีของช้างไทยในอดีตที่เป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมือง คู่บารมีพระมหากษัตริย์ปกป้องเอกราชแห่งชาติไทย
เมื่อเวลา 07.30 น.วันนี้ (13 มี.ค.) ที่บริเวณอนุสาวรีย์พระยาสุรินทร์ภักดีศรีณรงค์จางวาง นายอรรถพร สิงหวิชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เป็นประธานนำข้าราชการ ประชาชนชาวจังหวัดสุรินทร์ และนักท่องเที่ยวประกอบพิธีทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง แด่พระภิกษุสงฆ์ สามเณร จำนวน 30 รูป เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่ช้าง และควาญช้าง คนเลี้ยงช้างที่ล่วงลับไปแล้ว โดยนำช้างแสนรู้ จำนวน 19 เชือก มาร่วมทำบุญตักบาตร โดยช้างใช้งวงจับถุงอาหารใส่บาตรพระสงฆ์ สามเณร สร้างความประทับใจในความผูกพันระหว่างคนกับช้าง
ทั้งนี้ วันที่ 13 มีนาคม 2559 องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ ร่วมกับจังหวัดสุรินทร์ ได้จัดกิจกรรมสำคัญ “วันช้างไทย” เนื่องจากมติคณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2541 กำหนดให้วันที่ 13 มีนาคมของทุกปีเป็นวันช้างไทย ดังนั้น เพื่อเป็นการยกย่อง และให้เกียรติช้าง รวมทั้งเพื่อให้คนไทยทั่วไปได้เห็นความสำคัญของช้างไทย ซึ่งเป็นสัตว์คู่บารมีของพระมหากษัตริย์ไทย ช้างเป็นผู้ปกป้องเอกราชแห่งชาติไทย และช้างสร้างชื่อเสียงให้แก่จังหวัดสุรินทร์มาโดยตลอดกว่า 50 ปีที่ผ่านมา
ประกอบกับจังหวัดสุรินทร์ เป็นจังหวัดที่มีความผูกพันกับช้างไทยมาตั้งแต่โบราณกาล โดยพระยาสุรินทร์ภักดีศรีณรงค์จางวาง ซึ่งในอดีตคือ “เชียงปุม” ผู้เป็นหัวหน้าชุมชนชาวสุรินทร์ได้ใช้ภูมิปัญญาทางด้านคชศาสตร์ ช่วยจับช้างเผือกของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระที่นั่งสุริยามรินทร์ถวายกลับคืนพระนครศรีอยุธยา จึงได้รับบำเหน็จความชอบพระราชทานบรรดาศักดิ์ให้เป็นหลวงสุรินทร์ภักดี ปกครองชุมชนชาวสุรินทร์ ณ บ้านเมืองที และต่อมา ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์ให้เป็นพระยาสุรินทร์ภักดีศรีณรงค์จางวาง ปกครองเมืองสุรินทร์ เป็นต้นมา
อีกทั้งจังหวัดสุรินทร์ มีกลุ่มชนพื้นเมืองเชื้อสายกวย ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในการจับช้างป่ามาฝึกหัดให้เป็นช้างบ้าน ซึ่งได้รับตกทอดมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้จังหวัดสุรินทร์เป็นแหล่งเลี้ยงช้างมากที่สุดในประเทศ ส่งผลให้จังหวัดสุรินทร์เป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไปทั้งใน และต่างประเทศว่า เป็น “เมืองช้าง”