ลำปาง - สาวนักพัฒนาชุมชนถูกยิงดับคารถขณะจอดบริเวณลานคลองถมตลาดชุมชนแม่เมาะ จ.ลำปาง ทหารยศ จ.ส.อ.สังกัดกองร้อยการฝึกการรบพิเศษที่ 3 ค่ายประตูผา ผู้เป็นกิ๊กหนุ่ม อ้างปืนลั่น หลังต้องการบอกเลิกและทะเลาะกัน
วันนี้ (11 มี.ค.) พ.ต.ต.คเน เนตรกุล พนักงานสอบสวนสภ.แม่เมาะ จ.ลำปาง รับแจ้งเหตุพบคนเสียชีวิตอยู่ภายในรถยนต์ซึ่งจอดที่บริเวณลานคลองถมตลาดชุมชนแม่เมาะ ต.แม่เมาะ อ.แม่เมาะ จึงรายงานผู้บังคับบัญชาและเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมกับ พ.ต.ท.โสภณ ผลกันทา รอง ผกก.ป.สภ.แม่เมาะ และชุดสืบสวน พร้อมทั้งประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 5 ลำปาง และแพทย์ รพ.แม่เมาะ เจ้าหน้าที่กู้ภัยแม่เมาะ เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุด้วย
ที่เกิดเหตุพบรถยนต์เชฟโรเลต สีขาว 4 ประตู ทะเบียน กน 277 ลำปาง จอดอยู่บใต้ต้นไม้ ภายในรถพบศพผู้เสียชีวิตทราบชื่อนางสุวิชาดา นพคุณ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 168 หมู่ 4 ต.สบป้าด อ.แม่เมาะ จ.ลำปางสภาพศพนั่งอยู่เบาะด้านซ้ายมีผ้าห่มคลุมอยู่ มีรอยเลือดเปื้อนไปทั่วเบาะรถ จากการชันสูตรในเบื้องต้นพบว่าถูกอาวุธปืนไม่ทราบขนาดยิงเข้าที่ขมับด้านขวา โดยตำรวจพิสูจน์หลักฐานได้ทำการเก็บลายนิ้วมือแฝง เพื่อจะได้ติดตามตัวผู้ที่ลงมือก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
จากการสอบสวนทราบว่าผู้ตายนั้นเป็นเจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนที่อำเภอแม่เมาะ เป็นผู้หญิงหน้าตาดีและสามีไปทำงานอยู่ที่ สปป.ลาว มีลูกสาวอายุ 7 ขวบ โดยที่ผ่านมาได้มีความสัมพันธ์กับทหารสังกัดกองร้อยการฝึกการรบพิเศษที่ 3 ค่ายประตูผา ซึ่งเมื่อคืนที่ผ่านมาได้มีคนพบเห็นว่าทั้งสองได้นั่งดื่มสุราด้วยกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งก่อนจะมาพบกลายเป็นศพเช้านี้
จากนั้นเวลา 10.00 น. พ.ต.กฤษณะ น้ำแก้ว ผู้บังคับกองร้อยการฝึกการรบพิเศษที่ 3 ค่ายประตูผา ได้เดินทางมาที่ สภ.แม่เมาะ และนำตัว จ.ส.อ.ณะเรศ ตุ้ยสืบ เข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่ง จ.ส.อ.ณะเรศรับสารภาพว่าก่อนเกิดเหตุช่วงเวลาประมาณ 02.00 น. หลังกลับจากการดื่มสุรากับกลุ่มเพื่อนได้เกิดมีปากเสียงทะเลาะกันกับผู้ตายอยู่ภายในรถ โดยตนเองพยายามจะบอกเลิกเพราะต่างคนต่างก็มีครอบครัวแต่ผู้ตายไม่ยอม และบอกว่าถ้าเลิกกันจะฆ่าตัวตาย ซึ่งตนเองได้เอาปืนลูกโม่ .38 วางไว้ที่คอนโซลของรถ ผู้ตายจึงได้หยิบมาจ่อที่ขมับ ตนเองเห็นท่าไม่ดีจึงได้รีบแย่งปืน จากนั้นปืนก็ลั่นเข้าที่ขมับผู้ตาย 1 นัดเสียชีวิตทันที ตนเองก็ตกใจทำอะไรไม่ถูกจึงได้นำผ้าห่มมาคลุมศพไว้ก่อนจะหลบหนีไป และช่วงเช้าจึงได้รายงานผู้บังคับบัญชาของตนเองทราบ ตนเองยืนยันว่าไม่มีเจตนาจะฆ่าแต่อย่างใด ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้นำตัวไปสอบสวนและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป