ศูนย์ข่าวศรีราชา - น้องชายตำรวจเจอภาพบาดใจเมื่ออดีตแฟนสาวควงแฟนหนุ่มหน้าใหม่โชว์เย้ยกลางร้านหมูกระทะ ก่อนพูดจาท้าทายแขวะกันไปมา แฟนใหม่โกรธชักปืนยิงแสกหัวเสียชีวิตคาร้าน พร้อมพูดทิ้งท้ายว่า “มึงพูดเองนะ”
เมื่อเวลา 23.30 น. คืนวันที่ 1 มี.ค.ที่ผ่านมา พ.ต.อ.ปราโมทย์ งามประดิษฐ์ ผกก.สภ.หนองปรือ จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุมีผู้ใช้อาวุธปืนยิงกันได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดขึ้นภายในร้านนัดพบ หมูกระทะ ถนนสุทธาวาส ม.7 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงนำกำลังตำรวจชุดสืบสวน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์เมืองพัทยา รุดตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุกลางร้านนัดพบหมูกระทะ พบผู้บาดเจ็บทราบชื่อคือ นายอานนท์ จุนสุมทร อายุ 25 ปี นอนหงายจมกองเลือดหายใจรวยรินอยู่ที่พื้น หลังจากถูกอาวุธปืนไม่ทราบขนาดยิงเข้าที่ศีรษะ 1 นัด ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ปั๊มหัวใจยื้อชีวิต แต่คนเจ็บถูกอาวุธปืนยิงโดนจุดสำคัญ และเสียเลือดมากเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ
จากการสอบสวน น.ส.วิริยา สรรพรุน อายุ 31 ปี เจ้าของร้านให้การว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายพร้อมเพื่อนชายรวม 4-5 คน ซึ่งไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน ได้เข้ามานั่งดื่มกินภายในร้านตามปกติ ส่วนกลุ่มคนร้ายนั่งอยู่โต๊ะข้างๆ กับผู้ตายมาด้วยกันทั้งหมด 4 คน และมีผู้หญิงร่วมวงด้วย 1 คน ซึ่งเป็นโต๊ะลูกค้าเจ้าประจำ จากนั้นทั้งสองฝ่ายเกิดตระโกนพูดแขวะกันซึ่งไม่ทราบสาเหตุเกิดจากอะไร
หลังจากผู้ตายเดินออกมาจากห้องน้ำโดยในมือยังถือแก้วเหล้า คนร้ายก็ได้ชักอาวุธปืนจากเอวขึ้นมาจ่อผู้ตาย พร้อมกับพูดจาท้าทายกัน ก่อนคนร้ายจะตัดสินใจลั่นไกยิงเข้าที่ศีรษะผู้ตายจนล้มฟุบนอนกองไปกับพื้นร้าน โดยคนร้ายได้พูดทิ้งท้ายไว้ว่า “มึงพูดเองนะ” ต่อหน้าลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการค่อนข้างเกือบเต็มร้าน หลังจากเกิดเหตุก็ไม่ได้สังเกตว่าใครเป็นใครเนื่องจากพากันวิ่งหนีเอาตัวรอด
พ.ต.อ.ปราโมทย์ เปิดเผยว่า สำหรับผู้ตายนั้นเป็นน้องชายเจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่ง ส่วนสาเหตุน่าจะเกิดขึ้นจากผู้ตายพบเห็นภาพบาดใจเมื่อคนร้ายได้ควงอดีตแฟนเก่าของผู้ตายมานั่งดื่มกินในร้านนัดพบหมูกระทะ ทำให้ทั้งสองฝ่ายซึ่งนั่งอยู่โต๊ะใกล้กัน ประกอบกับอาการเมาสุราแล้วพูดจาแขวะกันไปมา คนร้ายจึงเกิดความแค้นใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายจนเสียชีวิตคาที่ ก่อนคนร้ายจะพากันขึ้นรถยนต์เก๋งสีดำ พากันหลบหนีไป อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้ทราบตัวคนร้ายแล้วว่าเป็นใคร ซึ่งในขณะนี้ได้สั่งการชุดสืบสวนเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีแล้ว