ตาก - เกิดเหตุไฟไหม้ห้างทองกลางเมืองแม่สอด คาดไฟฟ้าลัดวงจรเป็นเหตุ โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต ขณะที่บ่อขยะใหญ่ใกล้กับแนวชายแดนก็เกิดเพลิงลุกไหม้อย่างรุนแรงกลางดึกจนเกิดหมอกควันพิษลอยเป็นบริเวณกว้าง
วันนี้ (2 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่สอด จ.ตาก รับแจ้งเกิดเหตุไฟไหม้อาคารพาณิชย์สูง 3 ชั้น ติดกับตลาดสดนครแม่สอด ซึ่งเปิดเป็นร้านจำหน่ายทองคำรูปพรรณ ชื่อห้างทองสิงรุ่งเรือง เลขที่ 19/15 ถนนชิดลม เขตเทศบาลนครแม่สอด เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา จึงรีบประสานขอรถดับเพลิงจากเทศบาลนครแม่สอด จำนวน 3 คัน และกำลังจากฝ่ายปกครองอำเภอแม่สอดเข้าไปยังจุดเกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุพบเพลิงกำลังลุกไหม้อย่างรุนแรง และมีควันไฟพวยพุ่งออกมาจากภายนอกตัวอาคาร โดยที่บริเวณชั้นที่สามของตัวอาคาร ซึ่งเป็นจุดต้นเพลิงและเป็นพื้นที่เก็บสิ่งของมีเสื้อผ้ากองไว้เป็นจำนวนมากจึงเป็นเชื้อเพลิงอย่างดีจนทำให้เพลิงลุกลามไปอย่างรวดเร็ว
เจ้าหน้าที่ดับเพลิงแม่สอดต้องส่งชุดผจญเพลิงเข้าไปดับเพลิงภายในตัวอาคารท่ามกลางความมืด โดยใช้เวลานานกว่า 15 นาทีจึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้
ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าพื้นที่เก็บของและเปิดเป็นที่ออกกำลังกายที่บริเวณชั้นสามของห้างทองที่เกิดเหตุถูกเพลิงเผาไหม้เสียหายเกือบทั้งหมด แต่โชคดีขณะเกิดเหตุไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
นายพิชัย วงศ์ธนสารสิน ซึ่งเป็นผู้ดูแลห้างทองฯ ให้การต่อเจ้าหน้าที่พร้อมกับคนในบ้านว่า ขณะเกิดเหตุตนพร้อมคนในครอบครัวนอนหลับพักผ่อนอยู่ภายในอาคาร จู่ๆ ก็มีกลิ่นเหม็นไหม้ และมีกลุ่มควันจำนวนมากลอยปกคลุมไปทั่วห้องเก็บของ และเกิดเป็นเพลิงไหม้อย่างรวดเร็ว ทุกคนในบ้านต่างรีบวิ่งหนีออกมาจากตัวอาคารได้อย่างปลอดภัย ก่อนที่จะตั้งสติรีบโทร.สายด่วน 191 แจ้งเหตุให้เจ้าหน้าที่ทราบเหตุ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าสาเหตุของการเกิดเหตุเพลิงไหม้อาจจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ส่วนความเสียหายของทรัพย์สินที่ถูกเพลิงไหม้ไปนั้นยังไม่สามารถประเมินมูลค่าได้ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองพิสูจน์หลักฐานจังหวัดตากจะได้เข้าไปตรวจสอบหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ที่แท้จริงอีกครั้งในช่วงสายของวันนี้
คืนเดียวกันได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ภายในบ่อทิ้งขยะขนาดใหญ่บนพื้นที่กว่า 10 ไร่ ท้ายชุมชนบ้านวังตะเคียน หมู่ที่ 4 ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด ใกล้กับชายแดนไทย-พม่า โดยเพลิงโหมลุกไหม้กองเศษขยะ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นถุงพลาสติก เศษผ้าที่กองทับถมรวมกันเป็นจำนวนมากจนลุกลามอย่างรวดเร็ว เนื่องจากช่วงเวลาเกิดเหตุมีลมพัดกระโชกอย่างรุนแรงและยังทำให้เกิดกลุ่มควันพิษที่มีกลิ่นเหม็นไหม้ลอยขึ้นไปในอากาศปกคลุมไปทั่วจุดเกิดเหตุ
เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากท้องที่ ต.ท่าสายลวดต้องรีบนำรถน้ำดับเพลิงจำนวน 2 คัน ระดมฉีดน้ำสกัดเพลิง จนเวลาผ่านไปนานกว่า 3 ชั่วโมงจึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ แต่ก็ยังต้องคอยฉีดน้ำหล่อเลี้ยงในบริเวณจุดเกิดเหตุต่อไป ป้องกันไม่ให้เพลิงกลับมาลุกไหม้ขึ้นอีก เนื่องจากยังมีความร้อนที่คุกรุ่นใต้ขยะกองมหึมา และมีกลุ่มควันลอยขึ้นมาตลอดเวลา
จากการสอบสวนเบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้บ่อทิ้งขยะครั้งนี้ คาดว่าอาจจะมีกลุ่มคนแอบลักลอบเข้าไปค้นหาเก็บของเก่าเพื่อนำไปขาย และอาจจะมีคนทิ้งก้นบุหรี่ที่ยังไม่ดับสนิทจนเกิดเป็นเพลิงไหม้ในเวลาต่อมา
โดยบ่อขยะแห่งนี้เมื่อช่วงต้นเดือนเมษายนของปีที่ผ่านมาก็เกิดเหตุเพลิงไหม้อย่างรุนแรงมาแล้ว 1 ครั้ง คราวนั้นต้องระดมกำลังพลและรถดับเพลิงจากหลายหน่วยงาน มาช่วยกันดับเพลิงนานกว่า 5 วันจึงสามารถดับเพลิงลงได้