xs
xsm
sm
md
lg

ผวากันทั่ว! คนร้ายตั้งแก๊งปาหินรถผ่านแม่สอด-แม่ปะ เหยื่อแข็งใจหนีรอดหวุดหวิด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ตาก - แก๊งคนร้ายสุดเหิม ซุ่มดักปาหินก่อนใช้ไม้ท่อนทำร้ายคนขับรถผ่านทางแม่สอด-แม่ปะ หวังให้เกิดอุบัติเหตุและชิงทรัพย์ แต่ผู้เคราะห์ร้ายแข็งใจขับรถหนีเอาชีวิตรอดอย่างหวุดหวิด ส่วนคนร้ายหลบหนีไปได้

วันนี้ (1 มี.ค.) เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอแม่สอด จ.ตาก ได้รับแจ้งมีเหตุคนร้ายดักทำร้ายร่างกายผู้ขับขี่รถบนถนนเฉลิมเทพ เขตรอยต่อเขตเทศบาลนครแม่สอด-เขตตำบลแม่ปะ เมื่อเวลาเที่ยงคืนเศษที่ผ่านมา จึงเร่งเดินทางไปตรวจสอบและช่วยเหลือ

ที่เกิดเหตุเป็นถนนที่เพิ่งสร้างใหม่ แต่ไม่มีไฟฟ้าส่องสว่างข้างถนน โดยที่คอสะพานข้ามคลองห้วยแม่สอด เจ้าหน้าที่พบกลุ่มวัยรุ่นทั้งชาย และหญิงจำนวน 7 คน ต่างยืนรอให้การต่อเจ้าหน้าที่ด้วยอาการขวัญเสียสุดขีด ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ยังพบผู้ได้รับบาดเจ็บถูกท่อนไม้ทุบไปที่ขา และศีรษะ แต่อาการไม่สาหัส สามารถให้การได้

นายพันธกานต์ น้อมไพรสงค์ อายุ 19 ปี หนึ่งในผู้เสียหายเล่านาทีระทึกว่า ตนกับเพื่อนๆ รวม 7 คนได้ขับขี่รถจักรยานยนต์รวม 3 คันมาตามถนนสายดังกล่าวเพื่อจะเดินทางกลับบ้านพัก เมื่อขี่รถมาถึงช่วงหลักกิโลเมตรที่ 3 ซึ่งเป็นสะพานข้ามลำห้วยแม่สอด ได้มีคนร้ายเป็นชายจำนวนไม่ต่ำกว่า 3 คน ที่แอบซุ่มอยู่ในที่มืดช่วงคอสะพาน ใช้จังหวะรถของพวกตนขี่ผ่านระดมขว้างก้อนหิน ท่อนไม้ขนาดใหญ่ใส่ลำตัว และใบหน้า จนรถหวิดพลิกคว่ำ

แต่พวกตนก็ยังแข็งใจตั้งสติรีบเร่งเครื่องขี่รถหลบหนี เนื่องจากคนร้ายยังวิ่งเอาท่อนไม้ไล่หวังจะเข้าทำร้ายซ้ำ จนหนีรอดไปยังที่ปลอดภัยแล้วรีบโทร.แจ้งเหตุร้ายโดยทันที

หลังรับแจ้งเหตุเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอแม่สอด ตำรวจ และชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน กว่า 30 นาย ได้กระจายกำลังเข้าปิดล้อมป่าในจุดเกิดเหตุ ท่ามกลางความมืดตลอดทั้งคืน แต่ไม่พบตัวคนร้ายแต่อย่างใด และคาดว่าคนร้ายอาจจะเป็นคนในละแวกใกล้เคียง เนื่องจากทราบเส้นทางหลบหนีเป็นอย่างดี

เบื้องต้นผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อตำรวจ สภ.แม่สอด เพื่อให้ติดตามหาตัวคนร้าย

ขณะที่ชาวบ้านในชุมชนแม่สอดใกล้จุดเกิดเหตุ และเขตข้างเคียงต่างขวัญผวาไม่กล้าใช้เส้นทางถนนสายนี้ในช่วงกลางคืนเพราะเกรงจะไม่ปลอดภัย เนื่องจากถนนสายนี้ได้เกิดเหตุคนร้ายทั้งปาหินและขว้างท่อนไม้ใส่ทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ในลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้ง แต่จนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถจับกุมตัวคนร้ายได้




กำลังโหลดความคิดเห็น