บุรีรัมย์ - เกิดเหตุรถพ่วง 18 ล้อบรรทุกหิน 50 ตันมุ่งหน้าไปส่งงานก่อสร้าง เบรกแตกเสียหลักพลิกตะแคงขวางถนนกลางสี่แยกภัทรบพิตร เมืองบุรีรัมย์ ท่ามกลางรถจอดติดไฟแดงจำนวนมากหวิดดับหมู่ โชคดีคนขับหักพวงมาลัยหลบทัน เทหินกระจายเกลื่อนถนนจราจรติดยาว ปิดถนน 1 ช่องทาง
เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (29 ก.พ.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์ ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถพ่วง 18 ล้อพลิกคว่ำ บริเวณสี่แยกภัทรบพิตร ต.เสม็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ใกล้กับสำนักงานแขวงทางหลวงชนบทจังหวัดบุรีรัมย์ จึงได้ประสานหน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรม ก่อนเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุตามที่ได้รับแจ้ง
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุเป็นบริเวณสี่แยกไฟแดงภัทรบพิตร ถนนสายบุรีรัมย์-ประโคนชัย พบรถพ่วง 18 ล้อ พ่วงแม่หมายเลขทะเบียน 70-2334 พ่วงลูก 70-2335 ประจวบคีรีขันธ์ บรรทุกหินเต็มคันจำนวน 50 ตัน ในสภาพพ่วงตัวแม่พลิกตะแคงขวางถนน กระจกด้านหน้ากระเด็นหลุดออก และเทหินที่บรรทุกมากระจัดกระจายเต็มพื้นผิวถนน สร้างความแตกตื่นตกใจแก่ผู้ขับขี่รถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่จอดรอสัญญาณไฟจำนวนมาก ส่งผลให้รถที่สัญจรผ่านเส้นทางดังกล่าวจอดติดยาวเหยียดเป็นเวลานาน
จากนั้นได้ระดมเจ้าหน้าที่แขวงการทางมาช่วยกันเก็บกวาดหินออกเพื่อเคลียร์พื้นผิวถนนให้รถสามารถสัญจรผ่านไปมาได้ แต่ตัวรถพ่วงยังขวางถนนกินพื้นที่ไป 1 ช่องจราจร เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องมาคอยอำนวยสะดวกและจัดระเบียบการจราจร เพื่อให้รถสัญจรไปมาได้ทั้งป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อนด้วย
ต่อมาได้ประสานรถเครนมาทำการยกรถพ่วง ซึ่งต้องใช้เวลานานกว่า 5 ชั่วโมงจึงสามารถเคลื่อนย้ายรถและเก็บกวาดหินออกจากถนนได้ ส่วนคนขับรถพ่วงคันเกิดเหตุและเพื่อนที่นั่งมาด้วยได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
จากการสอบถามนายนารากาญจน์ ชูจอหอ อายุ 40 ปี คนขับรถพ่วงคันเกิดเหตุ บอกว่า ได้บรรทุกหินออกมาจากโรงโม่หินแห่งหนึ่งจำนวน 50 ตัน จะนำไปส่งไซต์งานก่อสร้างที่ อ.ชำนิ แต่ระหว่างขับมาตามถนนผ่านหน้าศาลากลางจังหวัดซึ่งเป็นทางลาดชัน และก่อนถึงสี่แยกไฟแดงภัทรบพิตรเป็นทางลงเนิน รถได้เกิดเบรกแตกทำให้เบรกไม่อยู่
จังหวะนั้นตนมองเห็นรถจอดติดไฟแดงเป็นจำนวนมาก จึงตัดสินใจหักพวงมาลัยหลบออกไปทางด้านซ้ายอย่างกะทันหัน ทำให้ตัวพ่วงแม่เสียหลักพลิกตะแคงหินเทกระจาดเต็มพื้นผิวถนน ส่วนตนและเพื่อนที่นั่งมาด้วยก็รอดตายหวุดหวิด แต่หากไม่หักพวงมาลัยออกแล้วพุ่งไปตรงอาจเกิดอุบัติเหตุหมู่พุ่งชนรถยนต์เสียหายหลายคัน ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินตามมาเป็นจำนวนมาก
