จันทบุรี - หลายหน่วยงานในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี เร่งนำรถบรรทุกน้ำออกแจกจ่ายช่วยเหลือราษฎรที่ประสบภัยแล้ง หลังจังหวัดจันทบุรีได้ประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติภัยแล้งแล้วใน 7 อำเภอ
วันนี้ (29 ก.พ.) นายสมศักดิ์ ปะริสุทโธ เหมทานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ได้ประกาศให้พื้นที่ 7 อำเภอ จาก 10 อำเภอ ในจังหวัดจันทบุรี เช่น อำเภอมะขาม อำเภอโป่งน้ำร้อน อำเภอสอยดาว อำเภอแก่งหางแมว อำเภอขลุง อำเภอนายายอาม และอำเภอเมือง เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติภัยแล้งแล้ว
ส่วนสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดจันทบุรี ได้มีการบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งทหาร ตำรวจ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เร่งให้การช่วยเหลือด้วยการนำรถบรรทุกน้ำออกแจกจ่ายน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคให้แก่ราษฎรในพื้นที่ท้องถิ่นชนบท และพื้นที่นอกเขตชลประทานอย่างเร่งด่วน
ขณะที่ นาวาเอกไพฑูรย์ เพ็ญต่าย หัวหน้ากองสนับสนุนการช่วยรบ กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ได้สั่งการให้กำลังพลนำรถบรรทุกน้ำออกแจกจ่ายแก่ประชาชนที่ประสบปัญหาภัยแล้ง โดยเฉพาะในพื้นที่รับผิดชอบของทหารเรือ เช่น อำเภอขลุง อำเภอโป่งน้ำร้อน อำเภอสอยดาว อำเภอแก่งหางแมว และอำเภอเขาคิชฌกูฏ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น
อย่างไรก็ตาม ปริมาณน้ำในเขื่อนหลักของจังหวัดจันทบุรี ยังคงมีเพียงพอที่จะใช้ในการอุปโภคบริโภค และบำรุงผลผลิตของเกษตรกรชาวสวนผลไม้ในเขตชลประทาน โดยปริมาณน้ำกักเก็บที่เขื่อนคิรีธาร คงเหลือประมาณ 57.659 ล้านลูกบาศก์เมตร อ่างเก็บน้ำคลองพระพุทธ ประมาณ 56.849 ล้านลูกบาศก์เมตร อ่างเก็บน้ำศาลทราย ประมาณ 7.866 ล้านลูกบาศก์เมตร และที่เขื่อนพลวง คงเหลือปริมาณน้ำประมาณ 44.526 ล้านลูกบาศก์เมตร จึงจำเป็นที่เกษตรกรต้องประหยัด และบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ และคำนึงถึงประโยชน์สูงสุด
ด้าน นายวิสุทธิ์ ประกอบความดี ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดจันทบุรี กล่าวว่า จังหวัดจันทบุรี เข้าสู่ภาวะฝนไม่ตกลงในพื้นที่เป็นเวลานานจนส่งผลกระทบต่อประชาชนบางส่วนแล้ว ทั้งนี้ ทุกอำเภอ ทุกพื้นที่ได้มีการรายงานมาที่อำเภอ ว่ามีการขาดแคลนน้ำ และขอประกาศให้เป็นพื้นที่ประสบภัยแล้ง ซึ่งทางอำเภอก็ได้รายงานผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ซึ่งผู้ว่าฯ ได้มีการเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อประกาศพื้นที่ประสบภัยแล้ง เพื่อใช้งบประมาณของท้องถิ่นในช่วยเหลือสำหรับรถน้ำที่จะออกวิ่งแจกจ่ายน้ำ หรือการขุดบ่อบาดาลต่อไป