พิจิตร - ยิ่งแล้งรุนแรง คนเจาะบาดาลพิจิตรยิ่งงานชุกรับทรัพย์เงินหมื่นทุกวัน หลังชาวนาแห่จองคิวจ้างเจาะน้ำบาดาลล่วงหน้ายาวข้ามปีวันละ 2-3 บ่อ
วันนี้ (28 ก.พ.) นายบุญช่วย จ่าเชิญ อายุ 64 ปี อยู่บ้านเลขที่ 56 หมู่ 6 ต.ท่าหลวง อ.เมืองพิจิตร ซึ่งยึดอาชีพรับจ้างเจาะบ่อน้ำบาดาลมายาวนานกว่า 40 ปี เปิดเผยว่า ขณะนี้ในจังหวัดพิจิตรถือว่าเข้าสู่สถานการณ์ภัยแล้งค่อนข้างรุนแรง จนมีชาวนามาติดต่อว่าจ้างให้ไปเจาะบ่อน้ำบาดาล หาน้ำใต้ดินใช้ทำการเกษตรแทบทุกวัน
นายบุญช่วย กล่าวว่า ตนเอง และคนงานมีรายได้จากการเจาะบ่อน้ำบาดาลที่ต้องทำมากถึงวันละ 2-3 บ่อ โดยคิดค่าบริการเจาะบ่อครั้งละ 7,000-10,000 บาท แล้วแต่ระยะทางใกล้ไกล โดยจะเจาะลงไปประมาณ 40-50 เมตร พอเจอชั้นน้ำใต้ดินก็จะใช้ท่อพลาสติกขนาด 4 หรือ 6 นิ้วที่ชาวนาต้องเตรียมเองเพื่อสูบน้ำขึ้นมา
“ช่วงนี้เป็นยุคทองของอาชีพเจาะบ่อน้ำบาดาลจริงๆ มีชาวนามาจองคิวให้ไปเจาะบ่อน้ำบาดาลคิวยาวล่วงหน้ามาตั้งแต่ปลายปี 58 แล้ว”
นายบุญช่วย กล่าวต่ออีกว่า ตนทำอาชีพรับจ้างเจาะบ่อน้ำบาดาลมาตั้งแต่ปี 2516 สืบทอดภูมิปัญญามาจากบรรพบุรุษ ในสมัยนั้นคิดค่าแรง และค่าอุปกรณ์ในการเจาะลงใต้ดินเพียงแค่ 1,000 บาท ส่วนเครื่องสูบน้ำ และท่อน้ำบนผิวดินผู้ว่าจ้างหามาเอง
ทุกวันนี้มีรถที่เป็นแท่นขุดเจาะบ่อน้ำบาดาลลงทุนอุปกรณ์รวมแล้วประมาณ 1 ล้านบาท แต่ก็หากินได้ ยิ่งในช่วงหน้าแล้งมีเงินหมื่นเข้ากระเป๋าแทบทุกวัน โดยมีรายจ่ายเป็นค่าน้ำมันรถ และคนงาน 5 คน คนละ 300 บาท ต่อการเจาะบ่อน้ำบาดาล 1 บ่อ
นางนิตยา ศรีลารอด อายุ 45 ปี เป็นชาวนาอยู่ที่ หมู่ 10 ต.คลองคะเชนทร์ อ.เมือง จ.พิจิตร กล่าวว่า เช่านาเขาทำ 11 ไร่ ปีนี้ภัยแล้งหนักจึงต้องยอมลงทุนเจาะบ่อน้ำบาดาลเพื่อเอาน้ำมาใช้ทำนา และรดพืชผักที่ปลูกอยู่ข้างบ้าน ครั้งนี้ลงทุนไป 13,000 บาท เป็นค่าแรง และค่าอุปกรณ์ท่อพลาสติกขนาด 4 นิ้ว พอเจอน้ำใต้ดินก็เชื่อว่าคุ้มแน่นอน