ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ จับผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญคาลานจอดรถ รพ.ฝาง ได้ผู้ต้องหาชาวมูเซอ 2 คน พร้อมของกลางไอซ์ 8 กิโลกรัม เงินสดที่ใช้ล่อซื้อ 2 ล้านบาท ส่วนตัวการใหญ่ไหวตัวหลบหนีไปได้
วันนี้ (27 ก.พ.) ที่สำนักงานตำรวจภูธรภาค 5 นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย พล.ต.ต.ประหยัชว์ บุญศรี รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 และ พล.ต.ต.มนตรี สัมบุณณานนท์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญ ได้ผู้ต้องหาชาวเขาเผ่ามูเซอ จำนวน 2 คน ได้แก่ นายประเสือ ปะจ๋อย อายุ 30 ปี คนอำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย และนายเจษฎา หรือยาแส แอกโก อายุ 25 ปี คนอำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมของกลางไอซ์ 8 กิโลกรัม และเงินสดที่ใช้ในการล่อซื้อ จำนวน 2 ล้านบาท โดยจับกุมได้ที่บริเวณลานจอดรถโรงพยาบาลฝาง ช่วงค่ำวานนี้ (26 ก.พ.)
ทั้งนี้ การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ได้ปลอมตัวเป็นพ่อเลี้ยงติดต่อล่อซื้อไอซ์จาก จาก นางนาสอ (ไม่ทราบนามสกุล) เป็นชาวมูเซอ ในพื้นที่อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ โดยตกลงซื้อขายไอซ์กันที่ราคากิโลกรัมละ 400,000 บาท จำนวน 8 กิโลกรัม เบื้องต้น จ่ายเงินสด 5 กิโลกรัม เป็นเงิน 2 ล้านบาท และได้เครดิต 3 กิโลกรัม ซึ่ง นางนาสอ นัดส่งมอบไอซ์ให้ที่ปากทางเข้าบ้านสันทรายคลองน้อย ตำบลเวียง อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ แต่ให้นายประเสือ ปะจ๋อย และนายเจษฎา นัดไปรับเงินก่อนที่ลานจอดรถโรงพยาบาลฝาง ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้ ส่วนนางนาสอ ไหวตัว และหลบหนีไปได้
รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยว่า ยาเสพติดของกลางดังกล่าวนี้มีแหล่งผลิตอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน โดยที่ นางนาสอ ซึ่งเจ้าหน้าที่ทำการติดต่อล่อซื้อแต่หลบหนีไปได้ถือเป็นผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ ลำเลียงยาเสพติดเข้ามาทางชายแดนอำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จะทำการสืบสวนขยายผลจับกุมเครือข่ายที่เกี่ยวข้องต่อไป สำหรับไอซ์ของกลางดังกล่าวนั้นราคาซื้อขายที่ชายแดนอยู่ที่กิโลกรัมละ 400,000 บาท จำนวน 8 กิโลกรัม รวมประมาณ 3 ล้านกว่าบาท แต่หากหลุดเข้าไปถึงพื้นที่ชั้นในจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 10 ล้านบาท
ขณะที่ นายเจษฎา หนึ่งในผู้ต้องหายอมรับสารภาพว่า เพิ่งร่วมก่อความผิดในครั้งนี้เป็นครั้งแรก โดยได้รับค่าจ้างเป็นเงิน จำนวน 200,000 บาท ตั้งใจจะนำไปมอบให้ภรรยาที่กำลังตั้งท้องเป็นค่าใช้จ่าย เพราะตัวเองกำลังเตรียมที่จะไปสมัครเป็นทหารเกณฑ์ในช่วงเดือน เม.ย.59 นี้ แต่มาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้เสียก่อน