xs
xsm
sm
md
lg

อุกอาจ! 2 หนุ่มพกซามูไรเสพยาบ้าซิ่งรถหนี ตร.ชน จยย.สายตรวจเมืองสองแควพังยับ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


พิษณุโลก - หนุ่ม รปภ. กับคู่หูช่างทำเฟอร์นิเจอร์พกดาบซามูไรยาวเฟื้อย เสพยาบ้าแล้วซิ่งเก๋ง เจอตำรวจกลัวถูกจับเหยียบคันเร่งหนี ชนจักรยานยนต์สายตรวจพิษณุโลกพังยับ ก่อนโดดหนีคนหนึ่งไปซ่อนตัวในห้างร้าง อีกคนหลบเข้าพงหญ้าริมน้ำน่าน สุดท้ายหนีไม่รอดเจอข้อหาหนัก ส่วน 2 ตำรวจโชคดีโดดหนีทันรอดตายหวุดหวิด

วันนี้ (25 ก.พ.) ร.ต.อ.สมเกียรติ บุญมีจิว ร้อยเวร สภ.เมืองพิษณุโลก รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 เมื่อเวลา 03.30 น.ที่ผ่านมาว่า ตำรวจชุดสายตรวจรถยนต์และตำรวจชุดสายตรวจรถจักรยานยนต์ กำลังไล่ล่าติดตามรถยนต์เก๋งต้องสงสัยของคนร้ายที่คาดว่ามีสิ่งของผิดกฎหมายอยู่ภายในรถ

โดยคนร้ายได้ก่อเหตุขับรถพุ่งชนใส่ตำรวจ 2 นาย ที่กำลังจอดรถจักรยานยนต์ดักขวางรถคนร้ายจนได้รับความเสียหาย เหตุเกิดบนถนนเส้นบรมไตรโลกนาถ หน้าโรงแรมน่านเจ้า ต.ในเมือง อ.เมืองพิษณุโลก

หลังรับแจ้งจึงประสานนำกำลังตำรวจกว่า 30 นายของโรงพักเข้าปิดล้อมพื้นที่และตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที พบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีบีอาร์ 300 ซีซี สีน้ำตาล ทะเบียนตราโล่ 25770 สภาพล้มคว่ำอยู่กลางถนน ช่วงหน้าตัวรถพังเสียหายยับเยิน บังโคลนแตก ถังน้ำมันยุบ

ห่างออกไปประมาณ 50 เมตรพบรถยนต์เก๋งของคนร้ายยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นอีคาร์ สีบรอนซ์-เงิน ทะเบียน กง 901 อุดรธานี สภาพฝากระโปรงหน้ารถพังยับเยิน ล้อแม็กแตกยางหน้าซ้ายแบนจอดสนิทแน่นิ่งอยู่ไม่สามารถขับต่อไปได้ ตรวจสอบภายในรถพบอาวุธมีดดาบปลายแหลมยาวกว่า 3 ฟุต จำนวน 2 เล่ม ซุกซ่อนอยู่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

ส่วนคนร้ายมีจำนวน 2 คน ที่เป็นคนขับและผู้โดยสารที่นั่งมาในรถคันดังกล่าว ได้อาศัยจังหวะรีบหลบหนีเข้าไปซ่อนตัวในห้างสรรพสินค้าร้างแห่งหนึ่งใกล้ที่เกิดเหตุ

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าปิดล้อมและค้นหาจนพบตัวคนร้าย 1 ราย กำลังหลบซ่อนอยู่ในห้างสรรพสินค้าร้างดังกล่าว และยินยอมมอบตัวแต่โดยดี ส่วนคนร้ายอีกรายได้วิ่งหลบหนีออกไปทางด้านหลังห้าง และวิ่งลงไปหลบซ่อนตัวในพงหญ้ารกทึบริมตลิ่งแม่น้ำน่าน เจ้าหน้าที่ลงไปจับกุมตัวได้ในที่สุด และนำคนร้ายทั้งคู่ไปสอบปากคำที่ศูนย์ปฏิบัติการสายตรวจ สภ.เมืองพิษณุโลก

ทราบชื่อคนร้ายทั้ง 2 คน คือ นายณัฐนันท์ ณรงค์พิทักษ์ อายุ 30 ปี อาชีพ รปภ.โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.เมืองพิษณุโลก อยู่บ้านเลขที่ 428/30 หมู่ 1 ต.บึงพระ อ.เมืองพิษณุโลก และนายเอกพล สุขขี อายุ 34 ปี อาชีพช่างทำเฟอร์นิเจอร์ อยู่บ้านเลขที่ 16/12 หมู่ 4 ต.วัดจันทร์ อ.เมืองพิษณุโลก

โดยทั้ง 2 ให้การรับสารภาพในอาการหมดแรงว่า ก่อนเกิดเหตุพวกตนได้มาจอดรถซื้อของที่ร้านค้าสะดวกซื้อริมถนนเส้นบึงพระ อ.เมืองพิษณุโลก ระหว่างนั้นมีรถยนต์ตำรวจสายตรวจผ่านมาพบเข้า และจะขอตรวจค้นสิ่งผิดกฎหมาย แต่เนื่องจากก่อนหน้านี้ได้เสพยาบ้ามาจำนวน 2 เม็ด และมีอาวุธมีดดาบซุกซ่อนอยู่จึงเกรงกลัวว่าจะถูกจับ จึงขับรถหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตามถนนสายต่างๆ ในเขตเทศบาลนครพิษณุโลก

กระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจจอดรถจักรยานยนต์ดักขวางทางข้างหน้า จึงตัดสินใจเหยียบคันเร่งเครื่องยนต์เต็มที่ ขับพุ่งชนอย่างไม่คิดชีวิต สุดท้ายก็ไปไม่รอดถูกตำรวจจับกุมตัวได้ในที่สุด

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งสองไปตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดในร่างกาย ก็พบว่าปัสสาวะเป็นสีม่วง จึงควบคุมตัวรอส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีในข้อหาหนัก คือ พยายามฆ่าเจ้าพนักงานขณะกำลังปฏิบัติหน้าที่ ขับรถด้วยความประมาทจนเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินของทางราชการเสียหาย เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

ด้าน ส.ต.ต.ภานุพันธ์ ไกรมี และ ด.ต.คณากร ยืนยาว ผู้บังคับหมู่งานป้องกันปราบปราม สภ.เมืองพิษณุโลก เล่าวินาทีระทึกว่า ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ตำรวจสายตรวจรถจักรยานยนต์ร่วมกัน โดย ส.ต.ต.ภานุพันธ์เป็นผู้ขับขี่ ส่วน ด.ต.คณากรเป็นคนซ้อนท้าย ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังขับรถไล่ติดตามรถของบุคคลต้องสงสัย ที่คาดว่ามีสิ่งของผิดกฎหมายอยู่ภายในรถยนต์ และกำลังขับขี่หลบหนีมาทางถนนเส้นบึงพระจันทร์ มุ่งหน้าถนนราษฎร์อุทิศ และกำลังจะขับออกไปทางถนนเส้นบรมไตรโลกนาถ

ทันทีที่ได้รับแจ้งและอยู่ใกล้จุดที่คนร้ายกำลังจะขับรถไปมากที่สุด จึงอาศัยความคล่องตัวของรถจักรยานยนต์สายตรวจรีบบิดขี่ไปดักรอทางข้างหน้า ทันใดนั้นรถยนต์ของคนร้ายซึ่งตรงตามที่รับแจ้งมากำลังขับมาด้วยความเร็วสูงเร่งเครื่องเต็มที่ พวกตนพยายามส่องไฟฉายทำสัญญาณให้หยุดรถ แต่ก็ไม่เป็นผล

ซึ่งขณะเกิดเหตุพวกตนได้ตั้งสติเตรียมพร้อมเอาไว้อยู่แล้ว จึงกระโดดหลบออกจากตัวรถได้ทันการณ์ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด ส่วนรถยนต์ของคนร้ายได้ชนกับรถจักรยานยนต์สายตรวจจนล้มคว่ำพังเสียหายไปทั้งคัน และรถยนต์ของคนร้ายก็เสียหายหนักไม่สามารถขับไปต่อได้ และถูกกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจตามมาสมทบจับกุมในที่สุด
กำลังโหลดความคิดเห็น