จันทบุรี - คนหาปลาจุดไฟเผาหญ้าแต่เอาไม่อยู่ ไฟได้ลุกลามไหม้สวนยางพาราของชาวบ้านกลางเมืองจันทบุรี ได้รับความเสียหาย เจ้าหน้าที่หน่วยดับเพลิงต้องใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้
วันนี้ (24 ก.พ.) เมื่อเวลา 11.00 น. เจ้าหน้าที่หน่วยดับเพลิงเทศบาลเมืองท่าช้าง ได้รับแจ้งจากนายศร ทำสวน ว่า มีไฟไหม้หญ้า และได้ลุกลามเข้ามาในสวนยางพารา ในซอยพัฒนา 10 หมู่ที่ 7 ตำบลท่าช้าง อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี ขอให้เจ้าหน้าที่หน่วยดับเพลิงได้เดินทางมาช่วยดับไฟให้ด้วย
หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่หน่วยดับเพลิงเทศบาลเมืองท่าช้าง เทศบาลเมืองจันทบุรี องค์การบริหารส่วนตำบลท่าช้าง และเทศบาลเมืองจันทนิมิต พร้อมด้วยรถดับเพลิง จำนวน 6 คัน ได้รุดไปที่เกิดเหตุ เมื่อเดินทางไปถึงพบว่าไฟกำลังลุกไหม้หญ้าข้างทางอย่างหนัก และเกิดกลุ่มควันหนาแน่นปกคลุม พร้อมกันนี้ ไฟได้ลุกลามออกเป็นวงกว้างเข้าไปไหม้สวนยางพาราของ นายศร ทำสวน อายุ 71 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23/2 หมู่ที่ 8 ตำบลจันทนิมิต อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี ที่ปลูกยางพาราอยู่ในเนื้อที่ 20 ไร่ และพบสวนยางพาราของ นายศร ทำสวน ถูกไฟไหม้ได้รับความเสียหายไปบางส่วน
ในเบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่หน่วยดับเพลิงจึงได้ช่วยกันระดมฉีดน้ำเพื่อสกัดเพลิงเพื่อไม่ให้ลุกลามออกเป็นวงกว้าง แต่ทำได้ยากเนื่องจากมีกระแสลมแรง ประกอบกับในจุดเกิดเหตุเป็นหญ้าแห้ง และมีใบไม้แห้งทำให้เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี
หลังเจ้าหน้าที่หน่วยดับเพลิงใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ก็สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ แต่โชคดีที่เจ้าหน้าที่สามารถเข้ามาช่วยดับเพลิงได้ทัน ทั้งนี้ หากเจ้าหน้าที่หน่วยดับเพลิงมาช้าก็จะทำให้สวนยางพาราของตนเองได้รับความเสียหายไปมากกว่านี้ ในเบื้องต้น ชาวบ้านได้เห็นคนตกปลาที่เข้ามาหาปลาได้มีการจุดไฟเผาหญ้า แต่คนหาปลาไม่สามารถควบคุมไฟอยู่ และได้ลุกลามไหม้หญ้าข้างทางอย่างรวดเร็วก่อนที่จะลุกลามมาเข้าสวนยางพาราดังกล่าว
สอบถาม นายศร ทำสวน เจ้าของสวนยางพารา กล่าวว่า ตนไม่รู้ว่าไฟที่ไหม้เกิดจากสาเหตุใด หลังจากตนเห็นไฟไหม้ก็รีบโทร.แจ้งให้เจ้าหน้าที่หน่วยดับเพลิงมาช่วยดับเพลิง ซึ่งเมื่อตรวจสอบก็พบว่า สวนยางของตนได้รับความเสียหายบางส่วนเพราะเจ้าหน้าที่หน่วยดับเพลิงสามารถดับไฟได้ทัน
“อยากจะฝากคนที่ชอบจุดไฟเผาหญ้าขอให้คำนึงถึงความปลอดภัยด้วย อย่างเช่นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตนเองนี้เพราะจุดไฟเผาหญ้า และเอาไม่อยู่ก็จะทำให้คนอื่นได้รับความเดือดร้อนอย่างที่เห็น”