อุบลราชธานี - ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 13 อุบลราชธานี นำเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่สูบน้ำเลี้ยงต้นข้าวชาวบ้านตำบลท่าช้าง อ.สว่างวีระวงศ์ ซึ่งเจอภัยแล้งกว่าพันไร่ไม่ให้เสียหาย ระบุแม้อยู่ในเขตชลประทานแต่ระดับน้ำในแม่น้ำมูลที่ลดลงมากทำให้เครื่องสูบน้ำชาวบ้านสู้ไม่ไหว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านบัวเทิง ต.ท่าช้าง อ.สว่างวีระวงศ์ จ.อุบลราชธานี นายชัยรัตน์ ประเสริฐศรี ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 13 จ.อุบลราชธานี นำเครื่องสูบน้ำขนาด 12 นิ้ว สูบน้ำจากแม่น้ำมูลส่งเข้าระบบคลองชลประทาน
ทั้งนี้ เพื่อส่งไปช่วยหล่อเลี้ยงนาข้าวของชาวบ้านอายุเกือบสองเดือนในบ้านบัวเทิง และบ้านหนองสะโน ต.ท่าช้าง กว่า 1,000 ไร่ ซึ่งกำลังขาดแคลนน้ำ และใกล้ยืนต้นตาย
โดยในจุดดังกล่าว แม้จะอยู่ในเขตชลประทานเพราะตั้งอยู่ห่างแม่น้ำมูลประมาณ 400 เมตร แต่เมื่อระดับน้ำในแม่น้ำมูลลดต่ำกว่าปกติคือ 1.51 เมตร ทำให้ชาวนาไม่สามารถสูบน้ำเข้าไปในระบบชลประทาน เนื่องจากพื้นที่ลาดชัน ทำให้ต้นข้าวขาดน้ำหล่อเลี้ยงมานานเกือบ 2 สัปดาห์
สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดจึงนำรถสูบน้ำเคลื่อนที่เข้าสูบน้ำช่วยเลี้ยงต้นข้าววันละกว่า 5 ล้านลูกบาศก์เมตรนาน 5 วัน โดยชาวบ้านจะต้องเก็บกักน้ำไว้ตามแหล่งเก็บน้ำจนกว่าจะถึงฤดูเก็บเกี่ยวข้าวนาปรัง