กำแพงเพชร - เจ้าหน้าที่ พม.-บ้านพักเด็ก พร้อมฝ่ายปกครองเมืองกล้วยไข่ ตามตรวจสอบหลังมีคนโพสต์เรื่อง “ยายมีลูก 11 คน ตกยาก ทำเพิงพักข้างถนน ต้องการอาหาร-น้ำดื่มประทังชีวิต” พร้อมรับเข้ารักษาใน รพ.กำแพงเพชร ยันลูกพร้อมรับกลับ แต่ไม่ให้สามีชาวพม่าเข้าบ้าน ทำคุณยายเลือกอยู่ข้างถนน
วันนี้ (19 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังมีการนำเรื่องราวของ “คุณยายทำเพิงอยู่ข้างถนน ต้องการอาหารและน้ำดื่ม เพื่อประทังชีวิต” โพสต์ลงเฟซบุ๊กใน Youlike@portan พร้อมระบุว่า “คุณยายเล่าให้ฟังมีลูก 11 คน เสียชีวิตไปแล้ว 2 คน เหลืออยู่ 9 คน เดิมทีก็มีบ้านอยู่ มีที่ดิน แต่แกโดนโกง และก็อาศัยอยู่กับลูกๆ ต่อมาถูกไล่ออกจากบ้าน ด้วยคำด่าทอที่หยาบคายจึงทำให้คุณยายไม่มีที่อยู่ทำเพลิงอาศัยอยู่ข้างถนน ไม่มีเงิน น้ำดื่ม ข้าวสาร ข้าวของใช้หลายอย่าง แกต้องอาบน้ำในคลอง ทางลงก็ลำบาก และชันมาก อันตราย วอนช่วยเหลือคุณยาย ด้วยนะคะ อยู่ที่หมู่บ้านเทพนคร หมู่21 อ.เมืองกำแพงเพชร ค่ะ”
ล่าสุดเจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดกำแพงเพชร ร่วมกับบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดกำแพงเพชร, ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง, ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองกำแพงเพชร พร้อมเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลเทพนครลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว
โดยพบว่า นางสอาด อายุ 69 ปี มีบุตร 9 คน เสียชีวิตแล้ว 2 คน มีอาการป่วยด้านจิตเวช และชอบดื่มสุรา เมื่อมีอาการทางจิตจะออกจากบ้าน เเละเดินเร่ร่อนในหมู่บ้าน มาอาศัยอยู่ที่วัดหลวงพ่อโตเป็นเวลาหลายเดือน ต่อมานางสะอาดมีสามีเป็นชาวพม่าและทำให้วัดสกปรก ชาวบ้านจึงให้ออกจากวัด จึงมาสร้างกระท่อมอยู่หัวสะพาน ม.1 ต.เทพนคร
เมื่อสอบถามไปยังบุตรของนางสอาด ได้รับการยืนยันว่าพร้อมที่จะรับนางสอาดมาดูแล แต่ไม่อนุญาตให้สามีชาวพม่าเข้ามาอยู่ในบ้าน แต่นางสอาดไม่ยอมกลับมาอยู่กับบุตร
ต่อมาเจ้าหน้าที่จึงเชิญคุณยายสอาดมาร่วมประชุมหลายฝ่าย พร้อมพูดคุยทำความเข้าใจ และหาแนวทางการช่วยเหลือวิชาชีพ ได้ข้อสรุปว่าจะนำตัวนางสอาดเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลกำแพงเพชรต่อไป
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรเมืองกำแพงเพชรก็ได้จับกุมนายอะนาย อายุ 44 ปี สัญชาติพม่า ที่อยู่อาศัยกับคุณยายสอาด ในข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารที่ใช้แทนหนังสือแทนหนังสือเดินทางที่ถูกต้อง ไม่ผ่านการตรวจของพนักงาน เจ้าหน้าที่มีความผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 ตามมาตรา 11, 12, 18, 62 และ 81 เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป