ราชบุรี - สมาชิก อบต.สวนผึ้ง พร้อมชาวบ้านสวนผึ้ง ระดมกำลังทำแนวกันไฟหลังไฟป่าผลาญวอดกินเนื้อที่หลายพันไร่ จนทำให้เกิดควันทั่วบริเวณ และเศษขี้เถ้าปลิวกระจายเป็นบริเวณกว้าง
วันนี้ (18 ก.พ.) นายประจวบ ลาเทศ อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 375 หมู่ 1 ต.สวนผึ้ง อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) สวนผึ้ง อ.สวนผึ้ง พร้อมด้วยชาวบ้าน ต.สวนผึ้ง อาสาสมัครดับไฟป่าของ อบต.สวนผึ้ง ได้ร่วมกันนำอุปกรณ์ทำแนวกันไฟ เช่น เครื่องเป่าลม ไม้กวาดขึ้นไปช่วยกันเร่งทำแนวกันไฟป่าบริเวณรอบๆ เขาหมู่ที่ 1 ต.สวนผึ้ง โดยมี พ.ต.มาโนช พัดชา หัวหน้าชุดลาดตระเวนกรมการทหารช่างราชบุรี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ร่วมสมทบในการดับไฟด้วย
ทั้งนี้ หลังจากเกิดไฟป่าไหม้ลุกลามบริเวณเขาหลายลูกใน อ.สวนผึ้ง มีพื้นที่เสียหายนับพันไร่ โดยเฉพาะช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ไฟป่าได้เผาผลาญจนเกิดควันไปทั่วบริเวณ กระทั่งควันไฟ และเศษขี้เถ้าปลิวกระจายเป็นบริเวณกว้างไปทั่ว อ.สวนผึ้ง โดยเฉพาะฟุ้งกระจายมายังตัว อ.สวนผึ้ง จนเห็นได้ชัดเจน ชาวบ้านที่จำนวนหนึ่งที่ทนต่อเหตุการณ์ไฟป่าไม่ได้เนื่องจากเกรงว่า พื้นที่ป่าและสัตว์ป่าจะเกิดการสูญเสียมากขึ้น บางรายก็มีการนำอุปกรณ์ทำแนวกันไฟขึ้นไปช่วยกันทำแนวกันไฟเกือบทุกวัน
นายประจวบ ลาเทศ สมาชิก อบต.สวนผึ้ง ที่ระดมชาวบ้านไปช่วยกันเร่งทำแนวกันไฟป่า กล่าวว่า สถานการณ์ไฟป่าที่เกิดขึ้นขณะนี้บางจุดรุนแรง บางจุดก็ยังไม่มาก แต่ก็ต้องเฝ้าระวัง ซึ่งชาวบ้านได้ช่วยกันดับด้วยวิธีสร้างแนวกันไฟ ซึ่งไฟป่ารุนแรงมากในช่วง 2-3 วัน โดยเฉพาะพื้นที่ ต.สวนผึ้ง ก็จะมีการแบ่งพื้นที่รับผิดชอบแต่ละหมู่บ้าน ถ้าหากหมู่บ้านใดดับไม่ทันก็จะเข้าไปช่วยกันดับ หรือทำแนวกันไฟป่า ซึ่งอุปกรณ์ต่างๆ ทาง อบต.ได้จัดสรรงบประมาณให้ ส่วนชาวบ้านก็จะช่วยเรื่องแรงงานด้วยการเป็นอาสาสมัครมาช่วย
ด้าน นายสุชิน อุทัต อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 128/1 หมู่ 1 ต.สวนผึ้ง อาสาสมัครดับไฟป่า กล่าวว่า สาเหตุของการเกิดไฟป่าจนทำให้พื้นที่ป่าถูกทำลายไปหลายพันไร่ครั้งนี้นั้น ยังคงเป็นฝีมือมนุษย์ที่ต้องการจุดไฟเพื่อหาผักหวาน และล่าสัตว์ป่า ทาง อบต.เองก็มีการประชาสัมพันธ์ไม่ให้ชาวบ้านจุดไฟเพื่อหาผลประโยชน์แม้จะน้อยลงบ้างแต่ก็ยังคงมีเกิดขึ้น โดยเฉพาะผักหวานในช่วงฤดูแล้งจะมีราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 300 บาท จึงเป็นแรงจูงใจให้ชาวบ้านบางส่วนยังคงลักลอบกระทำผิดอยู่
นายทัศน์พล ผลถาวร อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 355/2 หมู่ 1 ต.สวนผึ้ง อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี อาสาสมัครดับไฟป่าที่ขึ้นไปช่วยดับไฟป่าทุกวัน เผยว่า ไฟป่าเริ่มเกิดขึ้นมาตั้งแต่ก่อนปีใหม่ โดยไฟยังไหม้เล็กน้อยแบบไม่เจาะจงพื้นที่ จนมาปลายธันวาคม 2558 ก็เกิดเป็นวงกว้างอยู่บริเวณบ้านห้วยม่วง ต.ตะนาวศรี อ.สวนผึ้ง กระทั่งมาถึงเดือนกุมภาพันธ์ ไฟป่าก็ยังไม่หยุด จนถึงขณะนี้ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา เกิดมากที่สุด ไฟป่าได้ทำลายพื้นที่ป่าของ อ.สวนผึ้ง ไปแล้ว 7-8 พันไร่ ซึ่งยังไม่รวมพื้นที่ ต.สวนผึ้ง ที่กำลังเร่งดับไฟ และทำแนวกันไฟกันอยู่
นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่บ้านถ้ำหิน หมู่ 5 ต.สวนผึ้ง ที่ยังดับไฟไม่หมด บางจุดทางอาสาสมัครดับไฟป่าไม่สามารถเข้าไปดับไฟได้เนื่องจากเป็นพื้นที่จับจอง เกรงว่าหากเกิดของเสียหายแล้วจะเกิดปัญหาจึงจำเป็นต้องปล่อยให้ไฟไหม้ไป แต่ที่กำลังเป็นห่วงในขณะนี้ก็คือ ผลกระทบจากไฟป่า เพราะตลอดทั้งวันก็จะมีเศษขี้เถ้าปลิวกระจายเป็นวงกว้างเข้ามาถึงในตัวอำเภอสวนผึ้ง รวมทั้งควันไฟที่ปกคลุมไปทั่วบริเวณ ซึ่งก็อยากให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องที่ทราบเหตุการณ์ไฟไหม้ป่าเร่งออกไปช่วยชาวบ้านก่อนจะเกิดความเสียหาย และผลกระทบไปมากกว่านี้
วันนี้ (18 ก.พ.) นายประจวบ ลาเทศ อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 375 หมู่ 1 ต.สวนผึ้ง อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) สวนผึ้ง อ.สวนผึ้ง พร้อมด้วยชาวบ้าน ต.สวนผึ้ง อาสาสมัครดับไฟป่าของ อบต.สวนผึ้ง ได้ร่วมกันนำอุปกรณ์ทำแนวกันไฟ เช่น เครื่องเป่าลม ไม้กวาดขึ้นไปช่วยกันเร่งทำแนวกันไฟป่าบริเวณรอบๆ เขาหมู่ที่ 1 ต.สวนผึ้ง โดยมี พ.ต.มาโนช พัดชา หัวหน้าชุดลาดตระเวนกรมการทหารช่างราชบุรี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ร่วมสมทบในการดับไฟด้วย
ทั้งนี้ หลังจากเกิดไฟป่าไหม้ลุกลามบริเวณเขาหลายลูกใน อ.สวนผึ้ง มีพื้นที่เสียหายนับพันไร่ โดยเฉพาะช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ไฟป่าได้เผาผลาญจนเกิดควันไปทั่วบริเวณ กระทั่งควันไฟ และเศษขี้เถ้าปลิวกระจายเป็นบริเวณกว้างไปทั่ว อ.สวนผึ้ง โดยเฉพาะฟุ้งกระจายมายังตัว อ.สวนผึ้ง จนเห็นได้ชัดเจน ชาวบ้านที่จำนวนหนึ่งที่ทนต่อเหตุการณ์ไฟป่าไม่ได้เนื่องจากเกรงว่า พื้นที่ป่าและสัตว์ป่าจะเกิดการสูญเสียมากขึ้น บางรายก็มีการนำอุปกรณ์ทำแนวกันไฟขึ้นไปช่วยกันทำแนวกันไฟเกือบทุกวัน
นายประจวบ ลาเทศ สมาชิก อบต.สวนผึ้ง ที่ระดมชาวบ้านไปช่วยกันเร่งทำแนวกันไฟป่า กล่าวว่า สถานการณ์ไฟป่าที่เกิดขึ้นขณะนี้บางจุดรุนแรง บางจุดก็ยังไม่มาก แต่ก็ต้องเฝ้าระวัง ซึ่งชาวบ้านได้ช่วยกันดับด้วยวิธีสร้างแนวกันไฟ ซึ่งไฟป่ารุนแรงมากในช่วง 2-3 วัน โดยเฉพาะพื้นที่ ต.สวนผึ้ง ก็จะมีการแบ่งพื้นที่รับผิดชอบแต่ละหมู่บ้าน ถ้าหากหมู่บ้านใดดับไม่ทันก็จะเข้าไปช่วยกันดับ หรือทำแนวกันไฟป่า ซึ่งอุปกรณ์ต่างๆ ทาง อบต.ได้จัดสรรงบประมาณให้ ส่วนชาวบ้านก็จะช่วยเรื่องแรงงานด้วยการเป็นอาสาสมัครมาช่วย
ด้าน นายสุชิน อุทัต อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 128/1 หมู่ 1 ต.สวนผึ้ง อาสาสมัครดับไฟป่า กล่าวว่า สาเหตุของการเกิดไฟป่าจนทำให้พื้นที่ป่าถูกทำลายไปหลายพันไร่ครั้งนี้นั้น ยังคงเป็นฝีมือมนุษย์ที่ต้องการจุดไฟเพื่อหาผักหวาน และล่าสัตว์ป่า ทาง อบต.เองก็มีการประชาสัมพันธ์ไม่ให้ชาวบ้านจุดไฟเพื่อหาผลประโยชน์แม้จะน้อยลงบ้างแต่ก็ยังคงมีเกิดขึ้น โดยเฉพาะผักหวานในช่วงฤดูแล้งจะมีราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 300 บาท จึงเป็นแรงจูงใจให้ชาวบ้านบางส่วนยังคงลักลอบกระทำผิดอยู่
นายทัศน์พล ผลถาวร อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 355/2 หมู่ 1 ต.สวนผึ้ง อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี อาสาสมัครดับไฟป่าที่ขึ้นไปช่วยดับไฟป่าทุกวัน เผยว่า ไฟป่าเริ่มเกิดขึ้นมาตั้งแต่ก่อนปีใหม่ โดยไฟยังไหม้เล็กน้อยแบบไม่เจาะจงพื้นที่ จนมาปลายธันวาคม 2558 ก็เกิดเป็นวงกว้างอยู่บริเวณบ้านห้วยม่วง ต.ตะนาวศรี อ.สวนผึ้ง กระทั่งมาถึงเดือนกุมภาพันธ์ ไฟป่าก็ยังไม่หยุด จนถึงขณะนี้ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา เกิดมากที่สุด ไฟป่าได้ทำลายพื้นที่ป่าของ อ.สวนผึ้ง ไปแล้ว 7-8 พันไร่ ซึ่งยังไม่รวมพื้นที่ ต.สวนผึ้ง ที่กำลังเร่งดับไฟ และทำแนวกันไฟกันอยู่
นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่บ้านถ้ำหิน หมู่ 5 ต.สวนผึ้ง ที่ยังดับไฟไม่หมด บางจุดทางอาสาสมัครดับไฟป่าไม่สามารถเข้าไปดับไฟได้เนื่องจากเป็นพื้นที่จับจอง เกรงว่าหากเกิดของเสียหายแล้วจะเกิดปัญหาจึงจำเป็นต้องปล่อยให้ไฟไหม้ไป แต่ที่กำลังเป็นห่วงในขณะนี้ก็คือ ผลกระทบจากไฟป่า เพราะตลอดทั้งวันก็จะมีเศษขี้เถ้าปลิวกระจายเป็นวงกว้างเข้ามาถึงในตัวอำเภอสวนผึ้ง รวมทั้งควันไฟที่ปกคลุมไปทั่วบริเวณ ซึ่งก็อยากให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องที่ทราบเหตุการณ์ไฟไหม้ป่าเร่งออกไปช่วยชาวบ้านก่อนจะเกิดความเสียหาย และผลกระทบไปมากกว่านี้
