คนร้ายขโมยเงินบริจาควัดหนีลงคลอง จนท.ต้องจุดไฟเผาป่ารกกดดันให้มอบตัว

พระนครศรีอยุธยา - โจรนิรนามแอบเข้าไปขโมยเงินบริจาคในวัดอโยธยา ก่อนวิ่งหลบหนีลงไปอยู่ในหนองน้ำ เจ้าหน้าที่อาสาสมัคร และตำรวจต้องใช้วิธีกดดันด้วยการจุดไฟเผาป่ารกเพื่อให้มอบตัว

วันนี้ (18 ก.พ.) ร.ต.ท.พิทยา ศรีเรือง พนักงานสอบสวน สภ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งว่ามีคนร้ายลักทรัพย์ตู้บริจาคที่วัดอโยธยา หมู่ 5 ต.หันตรา อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา จึงไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล ผบก.ภ.จ.พระนครศรีอยุธยา และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิพุทไธสวรรย์

พบชาวบ้าน และพระกำลังล้อมจับคนร้ายอยู่ ซึ่งห่างจากวัดประมาณ 1 กิโลเมตร เนื่องจากคนร้ายวิ่งหนีออกมาเพื่อไม่ให้ถูกจับได้ก่อนกระโดดลงหนองน้ำข้างวัด ชาวบ้านจึงช่วยกันปิดรอบแต่ไม่เป็นผล จึงแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ตำตรวจ และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิพุธไทสวรรค์ช่วยกันล้อมจับนานกว่า 2 ชั่วโมง

แต่คนร้ายยังไม่ยอมขึ้นมาจากหนองน้ำ เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิพุธไทสวรรค์ จึงทำการเผาป่าหญ้าเพื่อกดดันคนร้ายจนกระทั่งไฟลุกลามไปถึงคนร้าย แต่ทำให้คนร้ายก็ไม่ยอมมอบตัว เจ้าหน้าที่จึงลงไปล็อกตัวถึงในหนองน้ำไว้ได้ด้วยความทุลักทุเล ซึ่งคนร้ายอยู่ในสภาพอิดโรย เนื้อตัวเปียกบอน และยังมีอาการมึนเมา ที่ศรีษะมีบาดแผลแตก ภายในตัวไม่พบเอกสารใดๆ ไม่ทราบชื่อ และที่อยู่

เมื่อสอบถามก็ไม่ยอมพูด จากการสอบถามชาวบ้านทราบเพียงว่า เคยเห็นชายดังกล่าวเป็นช่างรับจ้างทาสีทั่วไปใกล้กับวัดอโธยา แต่ไม่ทราบว่าชื่ออะไร เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวไปรักษาที่ รพ.พระนครศรีอยุธยา แล้วจึงนำตัวมาสอบปากคำดำเนินคดีต่อไป

พระครูสังฆรักษ์ ปัญญาพล อายุ 49 ปีเจ้าอาวาสวัดอโยธยา กล่าวว่า ตอนเช้าพบมีคนร้ายปั่นจักรยานมาภายในวัดวนดูราดราวอยู่ 3 รอบ แล้วนำรถจักรยานมาจอดทิ้งไว้ด้านข้างวัด จากนั้นเดินเข้ามาภายในวัดตรงไปที่ตู้บริจาคบริเวณหน้าห้องน้ำ และนำมือล่วงเข้าไปหยิบเงินบริจาค ขณะนั้นมีพระลูกวัดมาพบคนร้ายตกใจเงินหล่นกระจายเต็มพื้น และวิ่งหนีไปตัวเปล่า โดยทิ้งรถจักรยานไว้ก่อนมาถูกปิดล้อมจนจับกุมได้ในที่สุด