ลำปาง - เจ้าหน้าที่หลายหน่วยทั้งป่าไม้ ตำรวจ ทหาร ปกครอง ระดมกำลังกว่า 40 นายบุกตรวจ-อายัดไม้เถื่อน พร้อมแท่นเลื่อยกลางบ้านไร้เลขที่เขตเสริมงาม เมืองลำปาง กลับเจอผู้ใหญ่บ้านใช้เสียงตามสายประกาศระดมคนปิดล้อม ห้ามยึดไม้-ดำเนินคดี อ้างขออนุญาตตัดไม้ในกลุ่มชาวบ้านแล้ว จนเจ้าหน้าที่ต้องถอยก่อนมืด
รายงานข่าวแจ้งว่า ระหว่างนายดนุศักดิ์ หมื่นโฮ้ง หัวหน้าสายตรวจปราบปรามว่าด้วยการกระทำผิดป่าไม้ สายที่ 1 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ส่วนป้องกันและปราบปรามภาคเหนือ กรมป่าไม้, กอ.รมน.ลำปาง, ตำรวจ ปทส.ภ.5 ลำปาง, ตำรวจ กก.4 บก.ปทส., นปพ.ภ.จว.ลำปาง, ตำรวจ สภ.เสริมงาม, หน่วยป้องกันและรักษาป่าในพื้นที่, ทหารจากมณฑลทหารบกที่ 32 ค่ายสุรศักดิ์มนตรี ประมาณ 40 นาย เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ ห่างจากถนนสายเสริมงาม-ลี้ประมาณ 100 เมตร เขตบ้านนาสันติสุข หมู่ 8 ต.เสริมซ้าย อ.เสริมงาม จ.ลำปาง บ่ายวานนี้ (17 ก.พ.)
โดยการสั่งการของ นายจเรศักษ์ นันตะวงษ์ ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 (ลำปาง) และนายสุเทพ พุทชา ผอ.ส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่าฯ นำโดยนายดนุศักดิ์ หมื่นโฮ้ง หน.สายตรวจปราบปรามว่าด้วยการกระทำผิดป่าไม้ สายที่ 1 เข้าตรวจสอบ
ซึ่งพบว่ามีกองไม้สักที่มีมากกว่า 100 ท่อน ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางตั้งแต่ 20-40 เซนติเมตร ที่ถูกกองรวมกันโดยมีการเอาเศษฟางปกคลุมไว้เพื่ออำพราง กระจัดกระจายไปทั่วบริเวณ นอกจากนี้ยังพบแท่นเลื่อน 1 แท่น อุปกรณ์การแปรรูปไม้จำนวนหนึ่ง โดยไม่พบตัวผู้กระทำผิด แต่ใกล้กันพบมีการปลูกสิ่งก่อสร้างด้วยไม้ 1 หลัง พบมีการนำไม้แปรรูปจำนวนหนึ่งมาเก็บไว้
เบื้องต้นมีคนแสดงตัวเป็นเจ้าของพื้นที่ และบ้านหลังดังกล่าว โดยอ้างว่าได้ขออนุญาตตัดไม้ทั้งหมดจากชุมชนผู้นำชุมชนเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเป็นไม้ท้ายป่าหัวไร่ปลายนา คิดว่าไม่ผิดกฎหมายจึงตัดเอามากองรวมกันเพื่อที่จะสร้างบ้านเพื่ออยู่อาศัย ไม่ได้ตัดขายแต่อย่างใด
แต่ทางเจ้าหน้าที่ได้ให้เอาหลักฐานต่างๆ มาแสดง เนื่องจากไม้สักไม่ว่าจะตัดมาจากที่ไหนต้องมีหลักฐานแสดงยืนยันชัดเจน แต่ทางเจ้าของบ้านไม่มีหลักฐานดังกล่าว มีเพียงแผ่นกระดาษที่อ้างว่าเขียนขึ้นมาโดยมีการขอนุญาตจากทางชุมชนเรียบร้อยเท่านั้น
ทางคณะเจ้าหน้าที่จึงยืนยันให้เจ้าของที่ดิน และไม้ดังกล่าวนำหลักฐานที่ชัดเจนมายืนยันที่หน่วยป่าไม้ พร้อมเข้าตรวจวัดไม้สัก ก่อนลำเลียงขึ้นรถเจ้าหน้าที่ป่าไม้เพื่อที่จะนำไม้ของกลางทั้งหมดไปเก็บรักษาที่หน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ ลป.35 แม่ต๋ำ
แต่ระหว่างเจ้าหน้าที่กำลังลำเลียงไม้ขึ้นรถอยู่นั้น ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่นำลูกบ้านมากดดันการทำงานของเจ้าหน้าที่ โดยไม่ยอมให้เอาไม้ของกลางออกไป แต่ทางเจ้าหน้าที่ได้ขนย้ายไปแล้วจำนวนหนึ่ง กลุ่มแกนนำชาวบ้านและผู้ใหญ่บ้านไม่พอใจได้ประกาศเสียงตามสายระดมชาวบ้านกว่า 300 คนเข้ามาปิดล้อมเจ้าหน้าที่ โดยนำโต๊ะเก้าอี้ รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ตอไม้ และผู้หญิงมาขวางถนน ไม่ให้เจ้าหน้าที่ขนย้ายไม้ออกจากพื้นที่ พร้อมไม่ให้ดำเนินคดีต่อเจ้าของบ้าน
หลังจากนั้นได้มีการเจรจากัน ทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้ยืนยันไม่ยอมดำเนินการตามข้อเรียกร้องเนื่องจากเป็นการกระทำผิดที่ชัดเจน อีกทั้งไม้ของกลางมีมากกว่า 100 ท่อน จึงทำให้บรรยากาศตึงเครียดขึ้น เวลาผ่านไปกว่า 3 ชั่วโมง จนสุดท้ายนายอำเภอเสริมงาม ได้เข้ามาพูดคุยเจรจากับผู้ใหญ่และกลุ่มแกนนำชาวบ้าน
ซึ่งทางกลุ่มชาวบ้านต่างยืนยันว่ากลุ่มชาวบ้านได้มีการร้องขอตัดไม้ในกลุ่มชาวบ้านด้วยกันและทำหนังสือเป็นหลักฐานแล้วเพื่อเอาไม้มาก่อสร้างบ้าน แต่ทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้ก็ยืนยันว่าเป็นการกระผิด พ.ร.บ.ป่าไม้ ต้องดำเนินคดี
ในที่สุดมีการหาทางออกโดยการให้เจ้าหน้าที่ยึดไม้ที่ยึดไปแล้วจำนวนหนึ่งเพื่อส่งดำเนินคดีต่อเจ้าของบ้าน ส่วนไม้ที่เหลือทางเจ้าหน้าที่จำเป็นต้องปล่อยไปเพราะชาวบ้านมากกว่า 300 คนปิดล้อมกดดันการทำงานจึงไม่สามารถทำงานได้ และเป็นหนทางที่จะเปิดทางให้เจ้าหน้าที่กว่า 40 ชีวิตที่อยู่ในที่เกิดเหตุออกมาจากจุดเกิดเหตุได้ก่อนมืดค่ำ ซึ่งอาจเกิดอันตรายแก่เจ้าหน้าที่ได้
