อุตรดิตถ์ - ทายาทเหยื่อรถทัวร์ชนกระบะกลางสี่แยกไฟแดงเข้าเมืองอุตรดิตถ์ 19 ธันวาฯ 58 ร้องสื่อ ขอ คปภ.ตามสินไหมทดแทน เผยครอบครัวเดือดร้อนหนักสูญเสียเสาหลักครอบครัวทั้งพ่อ-แม่ และหลานรวม 3 ศพ เจ็บอีก 4 จนบางคนผวาไม่กล้าออกถนน แถมปีนี้ทำนาไม่ได้อีก ไฟแนนซ์ส่งหมายศาลจะฟ้องซ้ำ
วันนี้ (17 ก.พ.) นายไกรฤกษ์ โลมาศ ลูกชายเหยื่ออุบัติเหตุรถบริษัท โชครุ่งทวีทัวร์ จำกัด ทะเบียน กทม 15-2255 สายเชียงของ-กรุงเทพฯ ชนกระบะมาสด้า บีที 50 สีดำ หมายเลขทะเบียน บธ 4503 อุตรดิตถ์ บริเวณสี่แยกทางเข้าเมืองอุตรดิตถ์ เมื่อเวลา 22.30 น.ของวันที่ 19 ธ.ค. 58 ได้เข้าร้องเรียนต่อสื่อมวลชน
นายไกรฤกษ์ระบุว่า อุบัติเหตุครั้งนั้นไม่เพียงทำให้มีผู้เสียชีวิตรวม 3 ราย คือ นายอภัย ใจน้อย (พ่อ) อายุ 69 ปี นางสาวสมิต หอมหุน (แม่) อายุ 59 ปี ด.ญ.เบญจวรรณ ใจน้อย (หลาน) อายุ 9 ขวบ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 4 คน คือ น.ส.วรรณวิไล โลมาศ อายุ 34 ปี ได้รับบาดเจ็บซี่โครงหัก 4 ซี่ และน้ำท่วมปอด นางสาวลัดดาวรรณ โลมาศ (คนขับ) อายุ 36 ปี เด็กชายรัฐศาสตร์ โยธี อายุ 13 ปี ได้รับบาดเจ็บบริเวณศีรษะต้องได้รับการผ่าตัดสมอง และเด็กชายนที โยธี อายุ 9 ขวบ ได้รับบาดเจ็บ
แต่ส่งผลทำให้ครอบครับของตนได้รับความเดือดร้อน ต้องเสียเสาหลักของครอบครัว ทั้งพ่อ และแม่ รวมถึงหลานรวม 3 ศพ ซึ่งต้องเสียค่าใช้จ่ายทั้งค่าจัดงานศพ ค่ารักษาพยาบาลหมดไปเป็นเงินกว่า 3 แสนบาท หนำซ้ำปีนี้ก็ทำนาไม่ได้เพราะประสบปัญหาภัยแล้ง รถยนต์คันที่เคยขับไปค้าขายที่ผ่อนค่างวดกับไฟแนนซ์ไปได้แค่ 12 เดือนก็มาพัง ไฟแนนซ์ก็ส่งหมายศาลมาบอกจะฟ้องร้องเพราะไม่มีเงินจ่ายค่างวด ไหนจะต้องรับผิดชอบค่าอาหารการกิน ค่าอุปกรณ์การเรียน ค่าเสื้อผ้าของหลานทั้งสองคนที่กำลังเรียนอยู่
ขณะที่ น.ส.วรรณวิไล กับ น.ส.ลัดดาวรรณ ก็เกิดอาการผวาไม่กล้าออกถนนเพราะมีอาการกลัวรถ ส่วนพ่อกับแม่ที่เคยออกหาปลาในบึงทุ่งกะโล่มาให้ลูกสาวแปรรูปไปขายตามตลาดนัดเพื่อหาเงินมาจุนเจือครอบครัวก็ได้เสียชีวิตไปแล้ว
“ไฟแนนซ์ก็จะฟ้อง โทร.มาเกือบทุกวัน ทำให้ทุกวันนี้ผม และครอบครับเดือดร้อนมาก”
นายไกรฤกษ์บอกว่า ล่าสุดได้รับค่าปลงศพศพละ 2 แสนบาท และค่ารักษาตาม พ.ร.บ.ภาคบังคับ แต่ครอบครัวตนคิดว่าไม่เพียงพอกับสิ่งที่สูญเสียไป เพราะหากพ่อกับแม่ของตนยังมีชีวิตอยู่คงหาเงินได้มากกว่านี้ รวมถึงความอบอุ่นที่มีอยู่ในครอบครัวเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดที่เราจะหามาทดแทนไม่ได้
ตนและครอบครัวจึงอยากวิงวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้ช่วยติดตามค่าสินไหมกับบริษัท โชครุ่งทวีทัวร์ และบริษัท ไทยเศรษฐกิจประกันภัย ให้ด้วย