ชาวแหลมฉบังผวานายทุนลักลอบทิ้งขยะสารพิษในที่ดินของตนเองจี้ จนท.ตรวจสอบ

ศูนย์ข่าวศรีราขา - ชาวบ้านแหลมฉบัง หวั่นนายทุนลักลอบทิ้งขยะสารพิษในที่ดินของตน หลังมาขอเช่าที่ดินเพื่อทำธุรกิจค้าของเก่า แต่ระยะหลังเปลี่ยนไปมีการล้อมรั้วสูงปิดกันไม่ให้คนภายนอกเห็น และมีกลิ่นเหม็นของขยะสารพิษ ล่าสุด หมดสัญญาเช่าเข้าตรวจสอบพบมีการขุดหลุมฝังกลบ หวั่นเป็นสารพิษ วอนเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ

นางทัน อินผลเล็ก อายุ 69 ปี อยู่บ้านเลขที่ 246/6 หมู่ 6 ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เจ้าของที่ดิน กล่าวว่า เดิมมีนายทุนจากกรุงเทพฯ มาขอเช่าที่ดินของตนเองบริเวณถนนสายเก้ากิโล หมู่ที่ 6 เพื่ออยู่อาศัย และค้าของเก่า ซึ่งในช่วงแรกก็ไม่มีปัญหาเนื่องจากมีการรับซื้อเศษกระดาษและพลาสติกไว้

แต่มาระยะหลังร้านค้าของเก่ามีการล้อมรั้วสังกะสีอย่างสูงรอบพื้นที่ โดยบุคคลภายนอกไม่สามารถมองเห็นได้ ซึ่งตนจะขอเข้าไปดูก็อ้างว่าไม่มีใครอยู่ และเข้าไปข้างในไม่ได้ โดยจะให้เข้าไปดูในภายหลัง แต่ก็ไม่ให้เข้าไปดูแต่อย่างใด และในระยะหลังมีชาวบ้านใกล้พื้นที่ของตนร้องเรียนว่า มีกลิ่นเหม็นจากพื้นที่ด้านในค้าของเก่า ลักษณะเหมือนการเผาสารเคมี และขอเข้าไปตรวจสอบแต่ก็ไม่ได้รับอนุญาตจากผู้เช่าที่ดินดังกล่าว

นางทัน กล่าวถึงปัญหาที่เกิดขึ้นตนได้แจ้งให้ผู้เช่าว่า หากหมดสัญญาการเช่าในครั้งนี้จะไม่ต่อสัญญาการเช่าอีกต่อไป แต่ก็ถูกบ่ายเบี่ยงว่าสินค้ายังมีอยู่เป็นจำนวนมาก ขอระยะเวลาในการเคลียร์สินค้าก่อน ซึ่งก็ผ่านมาเป็นเวลานับปีจนสามารถเคลียร์ของ และย้ายออกจากพื้นที่ของตนไป แต่สร้างความไม่พอใจต่อผู้เช่าเป็นอย่างมากเพราะไม่ต่อสัญญาให้ ที่สำคัญยังมีการตัดต้นไม้ขนาดใหญ่ในพื้นที่สร้างความเสียหายไปหลายต้นด้วย

หลังจากนั้น ตนพร้อมลูกชายได้เข้าไปตรวจสอบในพื้นที่ดังกล่าวพบมีการขุดหลุมขนาดใหญ่ ประมาณ 10 หลุม ฝังบางอย่างลงไปซึ่งส่งกลิ่นเหม็นด้วย นอกจากนั้น ยังมีการเผาวัสดุบางอย่างซึ่งส่งกลิ่นเหม็นรบกวนชาวบ้านในหมู่บ้านใกล้เคียงจนมีการร้องเรียนต่อเทศบาลนครแหลมฉบังมาแล้ว

ด้าน นายสมเกียรติ อินผลเล็ก บุตรชาย กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นสร้างความเสียหายแก่ที่ดินเป็นอย่างมาก ทั้งๆ ที่ผ่านมา ให้เช่าเพียงธุรกิจค้าของเก่าเท่านั้น แต่ระยะหลังจะทำอะไรในพื้นที่ทางตนไม่สามารถทราบได้เลย แม้กระทั่งจะเข้าไปดูพื้นที่หลังได้รับการร้องเรียนว่าในที่ดินแปลงดังกล่าวทำอะไรไม่ถูกต้องก็เข้าไปไม่ได้ เพราะอ้างสิทธิการเช่าพื้นที่แล้ว ซึ่งสร้างความแปลกใจให้แก่ครอบครัวมาก

“ผมขอฝากเจ้าของที่ดินทุกแปลงถึงการทำสัญญาการเช่าที่ดินควรระมัดระวังและศึกษาข้อกฎหมายอย่างละเอียด เพราะเหตุการณ์ครั้งนี้สร้างความรู้สึกที่ไม่ดีอย่างมาก เพราะที่ดินของตนแท้ๆ ยังไม่สามารถดำเนินการอะไรได้เลย ทั้งๆ ที่สร้างความเสียหายแก่ที่ดิน และทรัพย์สินบนที่ดินแปลงดังกล่าว ที่สำคัญยังหวาดกลัวต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก เพราะหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งๆ ที่ไม่รู้เรื่องเลย” นายสมเกียรติ กล่าว

นายสมเกียรติ กล่าวต่อว่า เหตุการณ์ในครั้งนี้ตนจะดำเนินการทุกอย่างต่อบุคคลที่มาเช่าที่ดินแปลงนี้ เพราะหากปล่อยให้มีการกระทำเช่นนี้อีกก็จะไปทำกับเจ้าของที่ดินรายอื่นๆ อีกต่อไป ซึ่งถือว่าไม่ถูกต้องและชอบธรรม โดยขณะนี้ได้เข้าร้องเรียนต่อเทศบาลนครแหลมฉบังแล้ว และจะเข้าร้องเรียนต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป

นางอารีย์ ตรีรัตนเวช ผู้อำนวยการสำนักงานสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เทศบาลนครแหลมฉบัง กล่าวว่า สำหรับพื้นที่บริเวณดังกล่าวได้มาเช่าพื้นที่เพื่อประกอบกิจการค้าของเก่านั้น ซึ่งเบื้องต้น จากการตรวจสอบแล้วไม่พบว่ามีการยื่นขออนุญาตประกอบกิจการต่อเทศบาลฯ แต่อย่างใด ดังนั้น ธุรกิจค้าของเก่ารายนี้ถือว่าผิดกฎหมายเพราะไม่ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ให้รับทราบ เพื่อเข้ามาตรวจสอบการทำธุรกิจเป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

จากการลงพื้นที่ตรวจสอบ พบว่า มีเศษวัสดุอุปกรณ์จากโรงงานอุตสาหกรรมหลายชนิด ซึ่งเรื่องนี้จะประสานกับการนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง สวนอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์ เพื่อตรวจสอบว่ามีการทำธุรกรรมต่อผู้ค้าของเก่ารายนี้หรือเปล่า ส่วนที่มีการขุดหลุมฝังกลบบางสิ่งบางอย่างอยู่ใต้ดินในพื้นดินนั้นจะต้องนำขึ้นมาตรวจสอบ ซึ่งจะเป็นอะไรนั้นต้องรอพิสูจน์ต่อไป