นครปฐม - เครือข่ายพระสงฆ์ไทย และฆราวาส 4 องค์กรเคลื่อนไหว อ้างสกัดแผนล้มล้างการปกครองคณะสงฆ์ไทย โดยรวมตัวกันจัดเวทีสัมมนาที่พุทธมณฑล กำลังทหารปิดทางเข้าก่อนมีการปะทะกัน โดยแกนนำพระสงฆ์ลั่นปักหลักไม่ถอยจนกว่าจะได้รับคำตอบพี่พอใจ
วันนี้ (15 ก.พ.) เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่พุทธมณฑล อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม เครือข่าวชาวพุทธซึ่งเป็นการรวมตัวกันของศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย สมาคมนักวิชาการเพื่อพระพุทธศาสนา และองค์กรภาคี ศูนย์ประสานงานเครือข่าย โดยมีพระเมธีธรรมมาจารย์ เลขาศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย เป็นแกนนำ ได้ร่วมกันจัดสัมมนา “สกัดแผนล้มล้างการปกครองคณะสงฆ์ไทย” โดยมีคณะสงฆ์ประมาณ 2,000 รูป และฆราวาสจากทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัดกว่า 4,000 คน ได้เคลื่อนตัวเข้าพื้นที่ตลอดช่วงบ่าย โดยมีกำลังทหาร และเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งใน และนอกเครื่องแบบคอยควบคุมความเรียบร้อย
โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างตึงเครียด ซึ่งกำลังทหารได้สั่งปิดประตูทางเข้าหน้าสวนพุทธมณฑลไม่ให้รถที่นำพระสงฆ์เข้าไปในพื้นที่ และชี้แจงทำความเข้าใจต่อผู้จัดงานเพื่อไม่ให้มีการชุมนุม และเชิญออกนอกบริเวณ พร้อมสกัดรถที่จะเข้าภายในงาน อนุญาตเฉพาะเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเท่านั้น แต่พระสงฆ์ และฆราวาสได้ใช้วิธีเดินเท้าเพื่อเข้าไปบริเวณงานแทน
พระเมธีธรรมมาจารย์ เลขาศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย ได้ขึ้นกล่าวต่อหน้าคณะพระสงฆ์หลายรูปก่อนจะมีการออกมาให้สัมภาษณ์ครั้งแรกในช่วงเวลา 15.30 น. ว่า ส่วนประเด็นเรียกร้องเกี่ยวกับการคัดค้านร่างรัฐธรรมนูญที่กระทบสิทธิพระสงฆ์ และการสนับสนุนให้มีการแต่งตั้งพระสังฆราช โดยประเด็นหลักๆ ได้วางไว้ 2 ประเด็น คือ การที่เถรสมาคมไม่ได้รับการดูแลและถูกกลุ่มคนบางคนได้เข้ามาย่ำยี และกดดัน โดยเหมือนเป็นการไม่ให้เกียรติกัน
อีกส่วนคือ การเข้ามาทวงถามรัฐบาล หรือผู้มีบทบาทในบ้านเมืองที่ปล่อยปละให้พระเถรสมาคมถูกกดดันโดยไม่มีการดูแลอย่างสมเกียรติ ซึ่งยืนยันจะทำไปได้ความสงบ ทั้งพระสงฆ์ และฆราวาส โดยจะปักหลักค้างคืนที่พุทธมณฑลจนกว่าจะได้รับคำตอบที่พอใจ
ทั้งนี้ ในช่วงการเข้ารวมตัวกำลังทหารได้มีการนำรถทหาร และรั้วมาปิดกั้นทางเข้าแต่มีพระสงฆ์บางส่วนพยายามเข้าเปิดทางทำให้เกิดปะทะกันของทหาร แต่ก็ไม่บานปลาย และยังคงควบคุมสถานการณ์ได้ ซึ่งต่อมา คณะสงฆ์ที่อยู่ด้านหน้าได้ช่วยกันยกรถฮัมวี่ของทหารที่จอดขวางทางและเปิดให้รถยนต์เข้าออกในพื้นที่ได้ ซึ่งยิ่งเวลาเย็นมากขึ้นจำนวนฆราวาส และพระสงฆ์ได้เพิ่มจำนวนเป็นหมื่นคน โดยทาง คสช.ได้ส่งเจ้าหน้าที่มาสอบถาม และเจรจาให้มีการยุติการชุมนุม ซึ่งยังไม่ทราบคำตอบว่าจะจบลงแบบใด