บุรีรัมย์ - ฮือฮาอีกแล้วหลังโพสต์ในโลกออนไลน์ ภาพหินทรายแกะสลักรูปชายหญิงร่วมเพศกามสูตร 12 ท่า ตั้งล้อมรอบแท่นศิวลึงค์ขนาดใหญ่ ภายใน “สวนสุขภาพศิวะ12” ข้างปราสาทจำลองภายในบริเวณศูนย์การค้า “บุรีรัมย์ คลาสเซิล” ที่สโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด สร้างขึ้นเพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยว และชอปปิ้งแห่งใหม่ แห่วิพากษ์วิจารณ์หลายแง่มุม
วันนี้ (13 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลายเป็นกระแสฮือฮาอีกแล้วหลังมีผู้นำภาพหินทรายแกะสลักรูปชาย-หญิงร่วมเพศด้วยท่าทางต่างๆ ไปติดตั้งล้อมรอบแท่นศิวลึงค์ขนาดใหญ่ ภายในสวนสุขภาพศิวะ 12 ข้างปราสาทพนมรุ้งจำลอง ภายในบริเวณศูนย์การค้า “บุรีรัมย์ คลาสเซิล” ที่กำลังเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยว และชอปปิ้งแห่งใหม่ของ จ.บุรีรัมย์ โพสต์ในเฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า “paiboon Intasri”
พร้อมมีข้อความระบุด้วยว่า “เห็นข่าวนี้แล้วเพลียใจ บุรีรัมย์ไม่มีอะไรจะส่งเสริมหรือไรไม่ทราบ sopping mall แห่งใหม่ของบุรีรัมย์ กลางสวนประดับด้วยรูปปั้นท่าร่วมเพศกามสูตร 12 ท่า ให้เด็กเดินศึกษาว่าจะเอาท่าไหนดีหรืออย่างไร เมืองปราสาทหิน ถิ่นภูเขาไฟ ผ้าไหมสวย รวยวัฒนธรรม ยังมีสิ่งดีๆ อีกมากมายที่จะเอามาให้เด็กชื่นชมความงามของศิลปวัฒนธรรม
ทั้งเทวรูป นางอัปสรา ศิวนาฏราช ทับหลัง ฯลฯ ทำไมไม่เอามา จะส่งกันไปไหนกามสูตรทุกวันนี้ก็มีข่าวข่มขืนกระทำชำเรากันตั้งแต่คนแก่ยันเด็กอนุบาลไม่เว้นแต่ละวัน ไม่ทราบว่าเป็นโครงการของใครฝากท่านพ่อเมืองเนวิน ช่วยหน่อยครับ ที่ทำดีเราก็ชื่นชมครับ ทำกีฬาให้มีชื่อจนใครๆ ก็อยากใส่เสื้อทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทำลานกีฬาให้เด็กเล่น ทำสนามให้เด็กแว้นเข้ามาแข่งในสนามไม่ต้องไปแข่งในถนนหลวงให้ชาวบ้านเดือดร้อนผมปรบมือให้จากใจจริง ทั้งหมดนี้ติเพื่อก่อครับไม่มีเจตนาอื่นใด...จากคนรักบ้านเกิด”
โดยมีคนในโลกออนไลน์เข้ามาแสดงความคิดเห็น และวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมกันอย่างมาก
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้ไปตรวจสอบตามที่ได้รับทราบข้อมูล ปรากฏว่า บริเวณด้านหลังสนามไอ-โมบาย สเตเดี้ยม ที่กำลังมีการก่อสร้างศูนย์การค้าบุรีรัมย์ คลาสเซิล ปราสาทพนมรุ้งจำลอง และสวนสุขภาพ ชื่อว่า “สวนศิวะ 12” เพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ โดยจะมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในช่วงบ่ายวันนี้ (13 ก.พ.)
เมื่อตรวจสอบบริเวณสวนสุขภาพที่ปรากฏในเฟซบุ๊ก พบหินทรายแกะสลักรูปชายหญิงร่วมเพศจริง จำนวน 12 ชิ้น ตั้งอยู่ล้อมรอบศิวลึงค์ขนาดใหญ่จริง ซึ่งผู้ดูแลการจัดสวนสุขภาพดังกล่าวให้ข้อมูลว่า เป็นภาพแกะสลักจากกามสูตร และเป็นแนวคิดของประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แต่ไม่ทราบถึงจุดประสงค์ที่นำรูปแกะสลักดังกล่าวมาตกแต่ง
ด้าน ผศ.สรเชต วรคามวิชัย อดีตอาจารย์สอนภาควิชาประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ และเจ้าของศูนย์ศิลปหัตถกรรมพื้นบ้าน ที่เคยแกะสลักหินทรายส่งทั้งใน และต่างประเทศ ได้ออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว ว่า ภาพแกะสลักในลักษณะดังกล่าวจัดแสดงอยู่ที่ประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นภาพที่แกะสลักจากเรื่องราวในประวัติศาสตร์ของศาสนาฮินดู จึงมองว่าผู้ที่จัดทำน่าจะลอกเลียนแบบแนวคิดมาจากประเทศอินเดีย เพื่อต้องการให้เป็นจุดสนใจที่แปลกใหม่ และเป็นที่ศึกษาเรียนรู้ประวัติศาสตร์ หรือชีวิตจริงของมนุษย์โลก แต่ขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละคนว่าจะมองในแง่มุมไหน
ส่วนตัวมองว่าไม่ได้เป็นอะไรที่เสียหาย และคิดว่าไม่น่าจะเป็นปัจจัยที่ทำให้เยาวชนเอาเป็นแบบอย่างในทางที่ไม่เหมาะสม เพราะปัจจุบันมีภาพในลักษณะดังกล่าวปรากฏอยู่ตามสถานที่ต่างๆ มากมายที่เด็ก และเยาวชนสามารถเข้าถึงได้ง่าย