บุรีรัมย์ - เพลี้ยแป้งและเพลี้ยไฟระบาดในไร่มันสำปะหลัง อ.โนนสุวรรณ จ.บุรีรัมย์ กัดกินใบและยอดอ่อน ทำให้ใบหยิกงอ ลำต้นแคระแกร็น หากไม่เร่งกำจัดจะระบาดเป็นวงกว้าง คาดเกิดจากสภาพอากาศแปรปรวนหนาวสลับร้อน สร้างความเดือดร้อนเกษตรกรวอนภาครัฐเร่งช่วยเหลือ
วันนี้ (10 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังสภาพอากาศแปรปรวนหนาวสลับร้อน ส่งผลให้เกิดเพลี้ยแป้ง และเพลี้ยไฟระบาดในไร่มันสำปะหลังของเกษตรกรบ้านโคกกระเบื้อง ม.6, ม.13 และบ้านโนนรัง ม.7 ต.โนนสุวรรณ อ.โนนสุวรรณ จ.บุรีรัมย์ ที่เพาะปลูกได้ 2-3 เดือน
โดยลักษณะการระบาดของเพลี้ยแป้งและเพลี้ยไฟดังกล่าวจะกัดกินใบและดูดน้ำเลี้ยงยอดอ่อน ทำให้ใบหยิกงอ ลำต้นแคระแกร็น หัวมันไม่เจริญเติบโต สร้างความเดือดร้อนให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังเป็นอย่างมาก
เบื้องต้นเกษตรกรได้ใช้ยาฆ่าแมลงฉีดพ่นตามไร่มัน แต่ไม่สามารถยับยั้งการระบาดของเพลี้ยแป้งและเพลี้ยไฟดังกล่าวได้ กลับพบว่าเพลี้ยได้ลุกลามกระจายในพื้นที่ไร่มันสำปะหลังทั้ง 3 หมู่บ้านกว่า 1,000 ไร่ หากไม่เร่งดำเนินการแก้ไขหรือกำจัดเพลี้ยที่กำลังระบาดจะสร้างความเสียหายให้แก่ผลผลิตมันสำปะหลังเป็นจำนวนมาก
จากปัญหาดังกล่าวเกษตรกรจึงได้เรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้าไปสำรวจพื้นที่ไร่มันสำปะหลังของเกษตรกรที่ประสบปัญหาเพลี้ยแป้งและเพลี้ยระบาด เพื่อหาวิธีกำจัดเพลี้ยที่กำลังระบาดและให้ความช่วยเหลือเกษตรกรอย่างเร่งด่วนด้วย
นายวาสนา การวงษ์ ผู้ใหญ่บ้านบ้านโคกกระเบื้อง ม.13 ต.โนนสุวรรณ อ.โนนสุวรรณ จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า หลังสภาพอากาศแปรปรวนทั้งร้อนหนาวสลับกันในช่วงนี้ ส่งผลให้เกิดปัญหาเพลี้ยแป้งและเพลี้ยไฟระบาดในไร่มันสำปะหลังของเกษตรกรในพื้นที่ 3 หมู่บ้านกระจายอยู่ในทุกแปลง แม้เกษตรกรจะแก้ไขปัญหาเบื้องต้นโดยการฉีดพ่นยาฆ่าแมลงแต่ยังไม่สามารถสกัดการระบาดได้ กลับพบมีการระบาดเป็นวงกว้างมากขึ้น โดยต้นไหนที่ถูกเพลี้ยลงกัดกินก็จะมีสภาพแคระแกร็น ไม่เติบโต และบางต้นก็มีสภาพใบไหม้เหี่ยวแห้ง
จากกรณีดังกล่าวจึงอยากเรียกร้องให้หน่วยงานที่ดูแลรับผิดชอบเข้ามาสำรวจ และเร่งหาวิธีกำจัดเพลี้ยแป้งเพลี้ยไฟที่กำลังระบาด เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกมันอย่างเร่งด่วนด้วย