ฉะเชิงเทรา - นายช่าง อบจ.แปดริ้ว หายหน้านาน 2 วัน ก่อนลูกน้องในหน่วยงานผิดสังเกตจากโทรศัพท์ไม่รับสาย ติดตามมาดูถึงยังบ้านพักพบกลายเป็นศพนอนอืดใบหน้าบวมเขียวคล้ำคาห้องนอน ด้าน จนท.เตรียมส่งศพชันสูตรหาสาเหตุที่แน่ชัดอีกครั้งต่อไป
วันนี้ (9 ก.พ.) เมื่อเวลา 16.00 น. ร.ต.ท.หญิงเศวรัตน์ ปุริสาย ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเหตุมีผู้นอนเสียชีวิตในบ้านพัก ถ.ธารน้ำใจ ภายในชุมชนประตูน้ำท่าไข่ โดยผู้เสียชีวิตเป็นหัวหน้าฝ่ายก่อสร้างและซ่อมบำรุง สำนักงานองค์การบริหารส่วนจังหวัดฉะเชิงเทรา (อบจ.) จึงเดินทางไปสอบสวนยังในที่เกิดเหตุ
ในที่เกิดเหตุภายในห้องนอนของบ้านเลขที่ 5/4/1 ม.1 ต.ท่าไข่ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ทราบชื่อต่อมาคือ นายสมหมาย ขอพูลเฉลา อายุ 53 ปี ซึ่งเป็นนายช่างหัวหน้าฝ่ายก่อสร้างและซ่อมบำรุง อบจ.ฉะเชิงเทรา (ระดับ 7 เดิม) นอนเสียชีวิตในลักษณะตะแคงข้างอยู่ริมฟูกที่นอน สภาพร่างกายบวมอืดใบหน้าเขียวคล้ำ แต่ไม่พบร่องรอยของการรื้อค้น หรือการต่อสู้ภายในห้องพักดังกล่าวแต่อย่างใด
จากการสอบถาม นางสุจินต์ อินทร์พุ่ม อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5/2 ม.16 ต.ท่าไข่ ซึ่งมีบ้านพักอยู่ห่างกันออกไปประมาณ 50 เมตร พี่สาวผู้ตายให้การว่า ได้พบเห็นน้องชายเป็นครั้งสุดท้ายเมื่อเวลาประมาณ 18.00-19.00 น. ของเย็นวันอาทิตย์ที่ 7 ก.พ.59 ที่ผ่านมา ขณะที่ผู้ตายกำลังจะขับรถยนต์ส่วนตัวออกจากบ้านพักไปในช่วงค่ำ จากนั้นก็ไม่ได้พบหน้ากันอีกเลย และก็ไม่ได้สังเกตเห็นถึงความผิดปกติแต่อย่างใด
ล่าสุด วันนี้ได้มีพนักงาน อบจ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นลูกน้องในหน่วยงานของน้องชายได้ขับรถมาติดตามดูผู้ตายจนถึงยังบ้านพัก เมื่อเวลา 14.30 น. เนื่องจากเห็นว่าผิดสังเกตที่ผู้ตายไม่ยอมไปทำงานถึง 2 วันแล้ว และเมื่อโทรศัพท์ติดต่อมาหายังผู้ตายก็ไม่มีคนรับสาย ทั้งที่โทรศัพท์ก็ยังสามารถโทรติดต่อได้ จนมาพบว่า น้องชายกลายเป็นศพนอนเสียชีวิตอยู่ภายในห้องนอนแล้ว
ซึ่งขณะนี้ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่เมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว เห็นผู้ตายระบุว่าได้ไปตรวจสุขภาพร่างกายมาแล้วพบว่า เป็นโรคความดัน จึงได้เข้าไปรับยาแก้ความดันยังที่ รพ.พุทธโสธร (รพ.เมืองฉะเชิงเทรา) มากิน แต่ก็ไม่ทราบว่าอาการของโรคดังกล่าวที่ตรวจพบนั้นมีความรุนแรงระดับใด เพราะเห็นว่าน้องชายก็ยังใช้ชีวิตได้ตามปกติ
สำหรับน้องชายของตนนั้น ปัจจุบันพักอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้เพียงลำพังคนเดียว เนื่องจากภรรยาได้เลิกรากันไปแล้วเมื่อช่วงปี 2557 แต่ก็ยังมีบุตรชายของผู้ตายที่ยังคงแวะเวียนเข้ามาหา และมานอนพักอาศัยอยู่ด้วย เบื้องต้น ญาติๆ ก็ไม่ได้ติดใจในสาเหตุการเสียชีวิตของผู้ตาย แต่ทางแพทย์ระบุว่า จะส่งศพไปตรวจชันสูตรโดยละเอียดให้อีกครั้งเพื่อหาสาเหตุการตายที่แน่ชัดที่ รพ.พุทธโสธร ต่อไป นางสุจินต์ กล่าว
