ชัยนาท - เจ้าหน้าที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาพลเทพจังหวัดชัยนาท จัดเวรคุมเครื่องสูบน้ำส่งเข้าคลองมะขามเฒ่า-อู่ทอง หลังกรมชลประทานอนุมัติสูบน้ำเข้าคลองไปช่วยผลิตประปา และไม้ยืนต้น
วันนี้ (3 ก.พ.) เจ้าหน้าที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาพลเทพ ยังคงจัดรอบเวรการปฏิบัติงานตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อควบคุมการเดินเครื่องสูบน้ำด้วยไฟฟ้าที่อาคารสูบน้ำมะขามเฒ่า-อู่ทอง อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท หลังกรมชลประทาน อนุมัติให้โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาพลเทพ จังหวัดชัยนาท ดำเนินการสูบน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา ส่งเข้าคลองมะขามเฒ่า-อู่ทอง ในอัตรา 5 ลูกบาศก์เมตร/วินาที เป็นเวลา 10 วัน เพื่อส่งไปสนับสนุนการผลิตน้ำประปา และช่วยเหลือสวนผลไม้ และไม้ยืนต้นในพื้นที่จังหวัดชัยนาท และจังหวัดสุพรรณบุรี ที่กำลังเริ่มขาดแคลนน้ำจากภัยแล้ง
โดยได้เริ่มสูบน้ำมาตั้งแต่วันที่ 27 มกราคม และจะสิ้นสุดในวันที่ 5 กุมภาพันธ์นี้ เพื่อให้การสูบน้ำเข้าคลองมะขามเฒ่า-อู่ทอง ดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่ต้องคอยควบคุมการเปิดเครื่องสูบน้ำ ซึ่งเปิดใช้ 2 เครื่อง จาก 4 เครื่อง สลับการเดินเครื่องทุก 3 ชั่วโมง เพื่อป้องกันเครื่องสูบน้ำทำงานหนักมากเกินไปจนอาจทำให้เครื่องเกิดความเสียหายได้
ทั้งนี้ เพื่อให้ปริมาณน้ำที่ส่งเข้าคลองมะขามเฒ่า-อู่ทอง ไหลไปถึงพื้นที่รับน้ำเข้าสระน้ำดิบของการประปาภูมิภาคศรีประจันต์ และสวนผลไม้ ไม้ยืนต้นที่กำลังต้องการใช้น้ำ จึงขอความร่วมมือเกษตรกรผู้ใช้น้ำจากคลองมะขามเฒ่า-อู่ทอง ให้งดการสูบน้ำไปใช้เพื่อการอื่น นอกเหนือจากเพื่ออุปโภคบริโภค และใช้ดูแลสวนผลไม้ และไม้ยืนต้นเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม วานนี้ (2 ก.พ.) เฟซบุ๊กของโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาท่าโบสถ์ จ.ชัยนาท ได้โพสต์ภาพเจ้าหน้าที่ฝ่ายช่างกลโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาท่าโบสถ์ ดำเนินการปิดประตูควบคุมปากคลองส่งน้ำคลอง 8 มะขามเฒ่า-อู่ทอง เนื่องจากมีเกษตรกรบางรายทำการสูบน้ำขณะที่ยังไม่ถึงรอบเวรการใช้น้ำ ทำให้ไม่สามารถส่งน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคให้การประปาดอนเจดีย์ได้ โดยระบุว่า เมื่อถึงรอบเวรการใช้น้ำแล้วโครงการส่งน้ำฯ ท่าโบสถ์จะดำเนินการเปิดประตูน้ำเพื่อให้เกษตรกรได้ใช้น้ำต่อไป
