อุบลราชธานี - เจ้าหน้าที่ปราบปรามยาเสพติดจังหวัดอุบลราชธานี สนธิกำลังสกัดจับแก๊งค้ายาบ้าชาวไทย และชาวลาว ได้ของกลางกว่า 1.1 แสนเม็ด พร้อมยาไอซ์หนัก 44.7 กรัม มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท ผู้ต้องหาอีก 4 คน หลังพยายามขับรถหนีแต่ไม่รอด
วันนี้ (2 ก.พ.) นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี และชุดปราบปรามยาเสพติดทหาร พร้อมตำรวจ และฝ่ายปกครอง แถลงผลการจับกุมยาบ้า 112,000 เม็ด และยาไอซ์ 44.7 กรัม มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท พร้อมผู้ต้องหา 4 คน สืบเนื่องจากเมื่อกลางดึกคืนวันที่ 2 ก.พ.ชุดปราบปรามยาเสพติดจังหวัดอุบลราชธานี สืบทราบว่าจะมีการส่งมอบยาเสพติดของแก๊งค้ายาชาวลาว เมืองสองคอน แขวงสะหวันเขต สปป.ลาว บริเวณสะพานข้ามลำห้วยสมบัติ บ้านสามแยกถ้ำเสือ ต.เขมราฐ อ.เขมราฐ
จึงสนธิกำลังวางจุดสกัดจับตามรายทาง กระทั่งเวลาประมาณ 01.30 น. พบชาย 2 คน เดินแบกกระเป๋าเป้สะพายเดินขึ้นมาจากริมทาง โดยมีกำลังติดอาวุธคุ้มกันจำนวนหนึ่ง ต่อมา มีรถยนต์เก๋ง 2 คันเข้ามาจอด โดยคันแรกเป็นรถนำทาง ยี่ห้อโตโยต้าอัลติส สีบรอนซ์ ทะเบียน กฉ 2910 ศรีสะเกษ มีนายสุรสิทธิ์ แซ่โง้ว อายุ 32 ปี เป็นคนขับ และนายประเมศ ดวงโสภา อายุ 38 ปี นั่งด้านข้าง และอีกคันเป็นรถมารับยาเสพติด มีนายสายไหม มณีจันทร์ อายุ 31 ปี เป็นคนขับ ส่วนนายพลกฤษ ศรีสิน อายุ 32 ปี นั่งมาด้านข้าง เมื่อหยุดรถรับยาจากกลุ่มชายข้างทาง ได้เร่งเครื่องรถมุ่งหน้าไปทาง อ.ชานุมาน จ.อำนาจเจริญ
ชุดปราบปรามยาเสพติดที่ดักซุ่มได้ออกมาสกัด ทำให้กลุ่มคนร้ายแยกย้ายกันหลบหนี โดยกลุ่มที่ขนยาบ้าจากประเทศลาวได้หนีกลับไปทางท่าน้ำลงเรือแล่นข้ามแม่น้ำโขงกลับเข้าประเทศของตนเอง ส่วนแก๊งยาเสพติดชาวไทยได้ทิ้งเป้สะพายใส่ยาบ้าไว้ข้างทาง ก่อนไปจนมุมเจ้าหน้าที่ที่ไล่ติดตามไปที่บ้านนางาม ต.คำเขื่อนแก้ว อ.ชานุมาน ห่างจากจุดส่งมอบยาเสพติดประมาณ 20 กิโลเมตร
โดยทั้งหมดรับสารภาพว่า ได้รับค่าจ้างในส่วนรถนำทาง 80,000 บาท ส่วนรถใช้ขนยาเสพติดได้ 100,000 บาท โดยจะนำยาบ้าไปส่งมอบให้แก่แก๊งค้ายาที่ จ.ยโสธร ก่อนกระจายไปยังจังหวัดต่างๆ อีกที จึงแจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมายต่อไป