พิจิตร - พบโรงเรียนไกลปืนเที่ยงเมืองชาละวันปั้นศิษย์ตั้งแต่ชั้นอนุบาล-ม.3 พูดได้ทั้งภาษาอังกฤษ-เวียดนาม-จีน รับ AEC สำเร็จ เผยทำมาตั้งแต่ปี 50 ดึงคู่สมรสชาวต่างชาติช่วยปูพื้นฐานก่อนดึงทุกภาคส่วนช่วยหนุนจ้างครู ตปท.-รับครูอาสาทั่วโลกช่วยฟรีอีกทาง
วันนี้ (29 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้คนในแวดวงการศึกษาในพิจิตรต่างกำลังพูดถึงการจัดการเรียนการสอนของโรงเรียนบ้านโป่งวังแดง หมู่ 4 ต.แหลมรัง อ.บึงนาราง จ.พิจิตร หนึ่งในโรงเรียนไกลปืนเที่ยง สอนตั้งแต่ชั้นอนุบาล 1-มัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่พัฒนาเป็นโรงเรียนสองภาษาขึ้นมาได้ รวมทั้งยังสอนให้นักเรียนพูด อ่านภาษาเวียดนาม และภาษาจีน รองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) อีกด้วย
นายบุญเวทย์ ศรีพวงใจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร เปิดเผยว่า โรงเรียนบ้านโป่งวัวแดงแม้จะเป็นโรงเรียนไกลปืนเที่ยงแต่สามารถบริหารจัดการทำเป็นโรงเรียนสองภาษานานาชาติได้ประสบความสำเร็จ ซึ่งผู้บริหารโรงเรียนเริ่มต้นพัฒนามาตั้งแต่ปี 2550 จนถึงวันนี้มีนักเรียนชั้นอนุบาล 1 ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 สามารถพูด อ่าน เขียนภาษาไทย ภาษาอังกฤษ รวมถึงยังพูดภาษาเวียดนาม และภาษาจีนได้
นายสว่าง สิงหะคเชนทร์ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านโป่งวัวแดง ได้เริ่มต้นจากการหาคู่สมรสที่เป็นชาวต่างชาติมาแต่งงานอยู่กินกับคนท้องถิ่น ให้มาอาสาเป็นครูสอนภาษาอังกฤษให้แก่เด็กๆ เพื่อเป็นการปูพื้นฐานในช่วงปีแรกๆ จนมั่นใจว่าเด็กๆ มีพื้นฐานแล้ว จึงได้ว่าจ้างครูจากฟิลิปปินส์มาเป็นครูผู้สอนหลัก
จากนั้นก็ได้ทำโครงการแลกเปลี่ยน ได้ครูอาสาสมัครมาจากประเทศต่างๆ ทั่วโลกมาช่วยสอน จึงทำให้เด็กนักเรียนในชนบทแห่งนี้สามารถพูด อ่าน เขียนภาษาอังกฤษ ภาษาจีน และภาษาเวียดนามได้ ซึ่งถือเป็นโรงเรียนต้นแบบในการบริหารจัดการการเรียนการสอนเพื่อเข้าสู่ AEC
นายสว่างให้สัมภาษณ์อย่างภาคภูมิใจถึงความสำเร็จว่า ร.ร.บ้านโป่งวัวแดงเป็นโรงเรียนในชนบท เด็กนักเรียนส่วนใหญ่ก็เป็นลูกชาวไร่ชาวนาขนานแท้ ทำให้ในอดีตที่ผ่านมามีปัญหาด้านการใช้ภาษาอังกฤษ โรงเรียนจึงเริ่มต้นพูดคุยกับผู้ปกครอง และผู้นำส่วนท้องถิ่น หาทางพัฒนาการศึกษา
ทั้งนี้ ได้ข้อสรุปในคราวนั้นว่าให้ว่าจ้างครูจากประเทศฟิลิปปินส์ 5 คน และขอเก็บเงิน เพื่อเป็นค่าจ้างครู 2,000 บาท ต่อนักเรียน 1 คน ส่วน อบต.แหลมรังก็ให้การสมทบครึ่งหนึ่ง
จุดเริ่มต้นเมื่อปี 2550 มีนักเรียนชั้น ป.3 เข้าเรียน 15 คน เมื่อเห็นว่าบรรลุผล ในปี 2551 จึงได้ขออนุมัติเป็นหลักสูตรพิเศษ 2 ภาษา จากนั้นก็เดินหน้าติดต่อหาครูอาสาสมัครจากต่างประเทศที่เป็นผู้มีจิตอาสา โดยประกาศทางเว็บไซต์ไปทั่วโลก
ปรากฏว่าทุกวันนี้มีครูอาสาสมัครจากเวียดนาม ยุโรป สหรัฐอเมริกา จีน เกาหลี ญี่ปุ่น หมุนเวียนกันเข้ามาเป็นครูให้แก่เด็กนักเรียนคราวละ 5-10 คน ซึ่งในแต่ละคนก็จะมาอยู่ 2 สัปดาห์ถึง 3 เดือน โดยที่ทางโรงเรียนไม่ต้องจ่ายค่าจ้าง เพียงแค่จัดหาที่พัก และบริการอาหารกลางวัน กับมื้อเย็น ส่วนมื้อเช้าครูอาสาสมัครก็จะหุงหาอาหารกินเอง ซึ่งส่วนใหญ่ก็ดื่มชากาแฟ ขนมปัง จึงไม่ยุ่งยากในการดำรงชีวิต
ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์ ครูคนไทย และเด็กนักเรียนก็จะจัดโปรแกรมพาครูอาสาสมัครที่เป็นชาวต่างชาติออกไปท่องเที่ยว ไปทัศนศึกษาตามแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของพิจิตร รวมถึงไปเรียนรู้ชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทยในชนบท ซึ่งสิ่งที่ได้คือนักเรียนของโรงเรียนบ้านโป่งวัวแดงก็จะได้เรียนรู้ภาษาและคำศัพท์ที่ใช้ในชีวิตประจำวันจากครูอาสาสมัครต่างชาติ
นายสว่างกล่าวว่า ทุกวันนี้ภาคภูมิใจในความสำเร็จที่ต่อสู้มา 9 ปีเต็ม ปัจจุบัน ร.ร.บ้านโป่งวัวแดงมีเด็กจากศูนย์เด็กเล็กอายุ 3 ขวบ ที่เริ่มเรียนภาษาต่างชาติแล้ว 63 คน มีเด็กนักเรียนอนุบาล 1 ถึง ม.3 รวม 375 คน มีครู 31 คน เป็นครูคนไทย 26 คน เป็นครูชาวฟิลิปปินส์ 5 คน และครูอาสาสมัครชาวต่างชาติจากทั่วโลก 5-10 คน ที่สลับสับเปลี่ยนกันมาสอนภาษา แลกเปลี่ยนความรู้กับเด็กนักเรียน จนทำให้ทุกวันนี้เด็กๆ ทุกคนของโรงเรียนบ้านโป่งวัวแดงพร้อมที่จะก้าวเข้าสู่ AEC ที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษ และภาษาต่างชาติเป็นจุดเริ่มต้นดังกล่าว
สำหรับท่านใดที่ต้องการแลกเปลี่ยนเรียนรู้สามารถติดต่อได้ที่ นายสว่าง สิงหะคเชนทร์ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านโป่งวัวแดง หมู่ 4 ต.แหลมรัง อ. บึงนาราง จ.พิจิตร โทร. 08-9839-6259 หรือ http://gg.gg/pongwuadaeng , E-mail: pongschool.ob.tc@gmail.com
