ตราด-ผอ.สำนักพุทธศาสนาตราด เผยพระสงฆ์ที่มาเที่ยวดำน้ำดูปะการังบริเวณหมู่เกาะช้าง จ.ตราด เป็นกลุ่มพระบัณฑิตศึกษาจากกรุงเทพฯ ระบุผิดวินัยสงฆ์ต้องอาบัติ
จากกรณีที่มีภาพพระสงฆ์ลงเล่นน้ำ และดำน้ำดูปะการังที่บริเวณเกาะเหลายา หมู่เกาะช้าง จ.ตราด ในโลกโซเชียล และเป็นกระแสฮือฮาถึงความไม่เหมาะสม ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวไม่ได้เข้าข่ายเป็นกิจของสงฆ์
ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (28 ม.ค.) นายสันติ ดินม่วง ผอ.สำนักพุทธศาสนา จ.ตราด กล่าวถึง กรณีที่มีการเผยแพร่ภาพพระสงฆ์ลงเล่นน้ำดำน้ำดูปะการังในหมู่เกาะช้าง จ.ตราด และปรากฏในโลกโซเชียลจนมีการนำไปแชร์ต่อๆ กันไป และเกิดข้อครหาว่าทำตัวไม่เหมาะสม เสื่อมเสีย
ทั้งนี้ ตนได้ทำการตรวจสอบแล้วพบว่า พระคุณเจ้าที่เห็นในภาพ เป็นกลุ่มสามเณร และพระสงฆ์ มาจากกรุงเทพฯ เป็นพระบัณฑิตศึกษาได้เดินทางมาจากกรุงเทพฯ โดยทั้งหมดได้มาขึ้นเรือที่ท่าเรือแหลมงอบ และเหมาเรือเพื่อไปดำน้ำดูปะการัง
คนขับเรือเองมองแล้วว่าอาจไม่เหมาะสม จึงได้พาไปในที่ๆ น่าจะไม่มีคนมาดำน้ำดูปะการังกันพลุกพล่าน จึงพาไปบริเวณใกล้ๆ กับเกาะเหลายา ที่ห่างไกลออกไป แต่เนื่องจากสมัยนี้การสื่อสารเร็วมากทำให้มีผู้คนที่เดินทางผ่านโดยเรือเร็วพบเข้า และถ่ายภาพมาโพสต์จนเกิดเรื่อง
นายสันติ กล่าวว่า การกระทำของพระสงฆ์กลุ่มนี้ถือว่าไม่เหมาะสมผิดวินัยสงฆ์แน่นอน เพราะว่าพระสงฆ์มีข้อห้ามมิให้ลงเล่นน้ำ ถ้าทำผิดก็ถือว่าอาบัติ ต้องไปทำพิธีปลงอาบัติต่อเจ้าอาวาส
อย่างไรก็ตาม แนะนำการปฏิบัติตนของพระสงฆ์ คือ ต้องไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับ 2 สิ่ง คือ สตรี และสตางค์ สองสิ่งนี้เมื่อพระสงฆ์เข้าไปยุ่งจะทำให้เกิดแต่ความเสื่อมเสีย ซึ่งหากความประพฤติของพระสงฆ์ที่ย่อหย่อน ถือว่าเป็นอันตรายต่อพระพุทธศาสนา