ศรีสะเกษ - ซิ่งปิกอัพพุ่งตก “อ่างฯ ห้วยตามาย” อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ สองผัวเมียจมน้ำตายคาซากรถ เผยทั้งสองเพิ่งประสบอุบัติเหตุรถเก๋งพังยับ จึงพากันนำเอกสารหลักฐานไปเคลมเงินประกัน และเดินทางกลับบ้านมาประสบเหตุซ้ำเสียชีวิต
เมื่อเวลา 17.20 น. วันนี้ (27 ม.ค.) พ.ต.ท.เข็มชาติ กระจ่างจันทร์ สารวัตรป้องกันปราบปราม สภ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ได้รับแจ้งว่า เกิดเหตุรถปิกอัพตกลงไปในอ่างเก็บน้ำห้วยตามาย ต.ภูเงิน อ.กันทรลักษ์ มีผู้ติดอยู่ในรถจำนวน 2 ราย จึงได้รายงานให้ พ.ต.อ.ชยากร เทศะบำรุง ผกก.สภ.กันทรลักษ์ ทราบ และได้ประสานงานเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างจิตต์ จุดกันทรลักษ์ นำกำลังเจ้าหน้าที่กู้ภัยรีบรุดไปยังที่เกิดเหตุ
เมื่อไปถึงพบบริเวณที่เกิดเหตุเป็นสะพานของอ่างเก็บน้ำ โดยด้านข้างสะพานมีรอยครูดคล้ายกับรอยล้อรถตกลงไปในน้ำ และรถได้จมหายลงไปอยู่ใต้น้ำห้วยตามาย มีประชาชนมุงดูเหตุการณ์อยู่เป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ช่วยกันลงไปงมหารถและพบรถจมอยู่ใต้น้ำใกล้สะพาน จึงนำอุปกรณ์มาลากดึงรถขึ้นมาจากน้ำ โดยมีประชาชนที่มาดูเหตุการณ์ช่วยกันดึงขึ้นมา
เมื่อรถโผล่พ้นน้ำขึ้นมาพบเป็นรถปิกอัพ ยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแมคซ์ สีดำ หมายเลขทะเบียน บต 6562 ศรีสะเกษ สภาพด้านหน้ารถพังยับเยิน ภายในรถมีร่างของชาย-หญิง 2 คนอยู่ภายในห้องโดยสารด้านหน้ารถ เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงรีบนำร่างของทั้ง 2 คนออกมาจากซากรถให้เจ้าหน้าที่พยาบาลโรงพยาบาลกันทรลักษ์ที่มาจอดรถกู้ชีพรออยู่รีบทำการปั๊มหัวใจเพื่อช่วยชีวิต แต่เนื่องจากทั้ง 2 คนจมน้ำคาซากรถอยู่เป็นเวลานานกว่า 30 นาที ทำให้เสียชีวิตแล้วทั้ง 2 ราย
สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ชาย-หญิงผู้เสียชีวิตทั้ง 2 รายเป็นสามีภรรยากัน ชื่อ นายปรีชา นิลบารันตร์ อายุ 53 ปี และนางสำฤทธิ์ นิลบารันตร์ อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 286 ม.5 บ้านชำม่วง ต.กระแชง อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ก่อนเกิดเหตุทั้ง 2 คนได้นำหลักฐานของรถเก๋งคันที่นายปรีชาขับรถไปประสบอุบัติเหตุที่ช่องจอม จ.สุรินทร์ พังเสียหาย โดยนางสำฤทธิ์ได้รับบาดเจ็บบริเวณหน้าอก
ทั้งนี้ เพื่อนำเอาหลักฐานของรถเก๋งคนดังกล่าวไปให้บริษัทประกันภัยเพื่อเคลมประกัน และช่วงที่กำลังเดินทางกลับไปบ้าน รถที่มีนายปรีชาขับมาได้เกิดเสียหลักพุ่งตกลงไปในอ่างเก็บน้ำห้วยตามายจมหายไปนานกว่า 30 นาที ก่อนที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยจะช่วยกู้เอารถขึ้นมาได้ ทำให้ทั้งสามีและภรรยาเสียชีวิตใต้น้ำคาซากรถ
พนักงานสอบสวน สภ.กันทรลักษ์ได้มอบศพให้ญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนา และจะได้ทำการสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป