บุรีรัมย์ - สลดลุงวัย 64 ปี ชาวบุรีรัมย์หนาวเสียชีวิตเป็นรายแรกของจังหวัด หลังอากาศหนาวเย็นลงฉับพลัน ประกอบกับผู้ตายนอนไม่สวมเสื้อผ้า และมีโรคประจำตัว ด้านรองผู้ว่าฯ รุดมอบผ้าห่มกันหนาว และเงินค่าจัดการศพช่วยเหลือครอบครัว
วันนี้ (26 ม.ค.) นายวิทยา จันทร์ฉลอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วย นายประสงค์ จันทร์กระจ่าง ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคงอำเภอเมืองบุรีรัมย์ นายณรงค์ ประพิณ นายกเทศมนตรีตำบลหนองตาด นายธีรศักดิ์ ทองทรวง กำนันตำบลหนองตาด ตัวแทนเหล่ากาชาดจังหวัด และเจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดบุรีรัย์ เดินทางไปเยี่ยมให้กำลังใจ พร้อมนำผ้าห่มกันหนาว และเงินค่าจัดการศพ
ไปมอบให้แก่ นางบุญสงค์ สะพู อายุ 55 ปี ที่บ้านเลขที่ 15 ม.13 ต.ชุมเห็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งมีอาชีพรับจ้างทั่วไป และฐานะยากจน หลังจากที่ นายบัวกาญ กองแก้ว อายุ 64 ปีสามี ได้เสียชีวิตจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นฉับพลันเป็นรายแรกของจังหวัดบุรีรัมย์
โดย นายสนั่น มะนู ผู้ใหญ่บ้านเป็นผู้ไปพบศพของ นายบัวกาญ นอนเสียชีวิตอยู่ภายในบ้านชั้นเดียว ในสภาพไม่สวมเสื้อผ้า ใส่เพียงกางเกงในตัวเดียว จึงแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ ซึ่งจากการตรวจสอบก็ไม่พบร่องรอยบาดแผลจากการถูกทำร้าย เจ้าหน้าที่ลงความเห็นว่าน่าจะเกิดจากสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงหนาวเย็นลงฉับพลัน ประกอบกับ นายบัวกาญ มีโรคประจำตัวคือ โรคเบาหวาน จึงทำให้เกิดอาการช็อก และเสียชีวิตดังกล่าว
ทั้งนี้ จากการสอบถาม นางบุญสงค์ สะพู ภรรยาผู้เสียชีวิต บอกว่า ก่อนหน้านี้ตนเอง และสามีได้ไปช่วยเลี้ยงหลานอยู่ที่ จ.สระบุรี แต่สามีบ่นคิดถึงบ้านจึงได้เดินทางกลับมาบ้านเมื่อ 3 วันก่อน โดยปกติสามีเป็นคนไม่ชอบใส่เสื้อผ้า อยู่บ้านสวมกางเกงตัวเดียว ตอนกลางคืนไม่ชอบนอนห่มผ้า ไม่ว่าจะหน้าร้อน หรือหนาวก็ตาม แต่พอช่วงนี้อากาศหนาวเย็นจัด ประกอบกับสามีมีโรคประจำตัว จึงคาดว่าสามีอาจะเกิดอาการช็อกเสียชีวิตจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นดังกล่าว
ด้าน นายวิทยา จันทร์ฉลอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า หลังจากสภาพอากาศที่แปรปรวนทั้งฝนตก และหนาวเย็นฉับพลันในช่วงนี้ ทางจังหวัดจึงได้ทำหนังสือแจ้งไปยังอำเภอ และองค์กรปกครองท้องถิ่น ได้สำรวจผู้ประสบภัยหนาวเพื่อหาแนวทางช่วยเหลือ โดยประสานท้องถิ่น หรือภาคเอกชน นำผ้าห่มมาแจกจ่ายช่วยเหลือ เนื่องจากตามระเบียบหลักเกณฑ์ใหม่จะต้องมีอุณหภูมิ 8 องศาติดต่อกัน 3 วัน จึงจะประกาศภัยพิบัติหนาว และจัดซื้อผ้าห่มมาแจกจ่ายช่วยเหลือได้
พร้อมกันนี้ ยังได้ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนให้ดูแลสุขภาพร่างกาย ควรสวมใส่เสื้อผ้าหนาๆ และห่มผ้าเวลานอน เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย หรือภาวะเสี่ยงที่จะช็อกเสียชีวิตจากอากาศที่หนาวเย็นจัดในช่วงนี้ได้
วันนี้ (26 ม.ค.) นายวิทยา จันทร์ฉลอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วย นายประสงค์ จันทร์กระจ่าง ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคงอำเภอเมืองบุรีรัมย์ นายณรงค์ ประพิณ นายกเทศมนตรีตำบลหนองตาด นายธีรศักดิ์ ทองทรวง กำนันตำบลหนองตาด ตัวแทนเหล่ากาชาดจังหวัด และเจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดบุรีรัย์ เดินทางไปเยี่ยมให้กำลังใจ พร้อมนำผ้าห่มกันหนาว และเงินค่าจัดการศพ
ไปมอบให้แก่ นางบุญสงค์ สะพู อายุ 55 ปี ที่บ้านเลขที่ 15 ม.13 ต.ชุมเห็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งมีอาชีพรับจ้างทั่วไป และฐานะยากจน หลังจากที่ นายบัวกาญ กองแก้ว อายุ 64 ปีสามี ได้เสียชีวิตจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นฉับพลันเป็นรายแรกของจังหวัดบุรีรัมย์
โดย นายสนั่น มะนู ผู้ใหญ่บ้านเป็นผู้ไปพบศพของ นายบัวกาญ นอนเสียชีวิตอยู่ภายในบ้านชั้นเดียว ในสภาพไม่สวมเสื้อผ้า ใส่เพียงกางเกงในตัวเดียว จึงแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ ซึ่งจากการตรวจสอบก็ไม่พบร่องรอยบาดแผลจากการถูกทำร้าย เจ้าหน้าที่ลงความเห็นว่าน่าจะเกิดจากสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงหนาวเย็นลงฉับพลัน ประกอบกับ นายบัวกาญ มีโรคประจำตัวคือ โรคเบาหวาน จึงทำให้เกิดอาการช็อก และเสียชีวิตดังกล่าว
ทั้งนี้ จากการสอบถาม นางบุญสงค์ สะพู ภรรยาผู้เสียชีวิต บอกว่า ก่อนหน้านี้ตนเอง และสามีได้ไปช่วยเลี้ยงหลานอยู่ที่ จ.สระบุรี แต่สามีบ่นคิดถึงบ้านจึงได้เดินทางกลับมาบ้านเมื่อ 3 วันก่อน โดยปกติสามีเป็นคนไม่ชอบใส่เสื้อผ้า อยู่บ้านสวมกางเกงตัวเดียว ตอนกลางคืนไม่ชอบนอนห่มผ้า ไม่ว่าจะหน้าร้อน หรือหนาวก็ตาม แต่พอช่วงนี้อากาศหนาวเย็นจัด ประกอบกับสามีมีโรคประจำตัว จึงคาดว่าสามีอาจะเกิดอาการช็อกเสียชีวิตจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นดังกล่าว
ด้าน นายวิทยา จันทร์ฉลอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า หลังจากสภาพอากาศที่แปรปรวนทั้งฝนตก และหนาวเย็นฉับพลันในช่วงนี้ ทางจังหวัดจึงได้ทำหนังสือแจ้งไปยังอำเภอ และองค์กรปกครองท้องถิ่น ได้สำรวจผู้ประสบภัยหนาวเพื่อหาแนวทางช่วยเหลือ โดยประสานท้องถิ่น หรือภาคเอกชน นำผ้าห่มมาแจกจ่ายช่วยเหลือ เนื่องจากตามระเบียบหลักเกณฑ์ใหม่จะต้องมีอุณหภูมิ 8 องศาติดต่อกัน 3 วัน จึงจะประกาศภัยพิบัติหนาว และจัดซื้อผ้าห่มมาแจกจ่ายช่วยเหลือได้
พร้อมกันนี้ ยังได้ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนให้ดูแลสุขภาพร่างกาย ควรสวมใส่เสื้อผ้าหนาๆ และห่มผ้าเวลานอน เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย หรือภาวะเสี่ยงที่จะช็อกเสียชีวิตจากอากาศที่หนาวเย็นจัดในช่วงนี้ได้