ศูนย์ข่าวภาคเหนือ - หลายจังหวัดภาคเหนือทั้งเชียงใหม่-เชียงราย-พะเยา อุณหภูมิลดฮวบ แถมฝนตกต่อเนื่อง ล่าสุดเช้านี้บน “ภูชี้ฟ้า” อุณหภูมิต่ำสุด -2 องศาฯ แล้ว ขณะที่ “อ่างขาง” วัดได้ 2.3 องศาฯ บนดอยอินทนนท์ ยังอยู่ระดับ 5-6 องศาฯ ไร้เหมยขาบ หรือแม่คะนิ้ง
วันนี้ (25 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อุณหภูมิในพื้นที่ จ.เชียงราย ลดต่ำลง และมีฝนตกอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เย็นวันที่ 24 ม.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุดเช้านี้ที่พื้นที่บนวนอุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า อ.เทิง จ.เชียงราย ชายแดนไทย-สปป.ลาว มีอุณภูมิต่ำสุดวัดได้ติดลบ 1-2 องศาเซลเซียส รวมทั้งมีเมฆหมอกปกคลุมไปทั่วบริเวณ ทำให้ท้องฟ้าปิด มองไม่เห็นดวงอาทิตย์ นักท่องเที่ยวที่พากันไปเที่ยวบนภูชี้ฟ้าในช่วงเวลาดังกล่าวประมาณ 150 คน ต่างได้สัมผัสกับอากาศหนาวจัดกันทั่วหน้า
นายสนิท หอมนาน หัวหน้าวนอุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า กล่าวว่า เดิมเจ้าหน้าที่จะปิดไม่ให้นักท่องเที่ยวเดินขึ้นไปบริเวณภูเนื่องจากหนาวจัดและมีลมพัดแรง รวมทั้งมีฝนโปรยลงมา เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ เจ้าหน้าที่ได้แจ้งเตือนประชาชนให้ใช้ความระมัดระวัง เนื่องจากการเดินทางขึ้นไปยังภูชี้ฟ้าต้องจอดรถไว้ด้านล่างและเดินขึ้นไปอีกประมาณ 700 เมตร
นายสนิทกล่าวอีกว่า และด้วยสภาพอากาศที่หนาวจัดดังกล่าวจึงต้องมีการเตรียมตัวให้พร้อม โดยเฉพาะช่วงเช้าตั้งแต่ 06.00-08.00 น.อุณหภูมิได้ติดลบกว่า 2 องศาเซลเซียส และเป็นช่วงที่ผู้คนนิยมเดินทางขึ้นไปพอดี อย่างไรก็ตาม จากการสำรวจพบว่าแม้อากาศจะหนาวจัด แต่ไม่มีน้ำค้างแข็ง หรือแม่คะนิ้ง ขึ้นบนภูชี้ฟ้า เพราะมีฝนตกและลมพัดแรงทำให้น้ำไม่สามารถเกาะเป็นน้ำแข็งบนยอดหญ้าได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ด้านสถานีอุตุนิยมวิทยา จ.เชียงราย รายงานอุณหภูมิพื้นราบในเขต อ.เมืองเชียงราย ว่า ต่ำสุดช่วงเช้า 8.5 องศาเซลเซียส และอุณหภูมิจะลดต่ำลงในระดับหนาวไปอีกหลายวัน ทำให้ประชาชนต่างต้องนำเสื้อกันหนาวมาสวมใส่-ก่อไฟผิงกันอย่างกะทันหัน เพราะอุณหภูมิได้ลดฮวบลงจากเดิมทันทีถึง 11 องศาเซลเซียส นอกจากนี้ฝนยังได้ตกลงมาทั่วพื้นที่ตั้งแต่ช่วงเช้าทำให้สภาพอากาศยิ่งหนาวจัดมากขึ้นอีก จนถึงช่วงสายของวันอุณหภูมิก็ยังต่ำไม่เกิน 8-9 องศาเซลเซียส
เช่นเดียวกับที่ จ.พะเยา อุณหภูมิได้ลดลงอย่างรวดเร็ว หลังจากได้มีฝนตกลงมาตลอดทั้งคืน ช่วงเช้าที่ผ่านมาอุณหภูมิต่ำสุดในพื้นราบวัดได้ 7 องศาเซลเซียส ขณะที่ยอดดอยต่างๆ อุณหภูมิต่ำอย่างไม่เคยปรากฏมาตลอดฤดูหนาวนี้
ขณะที่ผู้ที่ขับรถยนต์และจักรยานยนต์ที่สัญจรไปมาในตัวเมืองพะเยาต่างต้องสวมใส่เสื้อกันฝน และเสื้อกันหนาวเพื่อป้องกันความหนาวเย็น รวมทั้งต้องเปิดไฟหน้ารถ เนื่องจากทัศนะวิสัยการมองเห็นไม่ชัดเจน จนทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นหลายจุด
ส่วนที่ จ.เชียงใหม่ก็มีสภาพอากาศแปรปรวน ฝนตกต่อเนื่องตั้งแต่บ่ายวันที่ 24 ม.ค. จนถึงขณะนี้ (25 ม.ค.) ทั้งยังเกิดวาตภัยใน ต.ออนกลาง อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่ เมื่อเย็นวานที่ผ่ามา ส่งผลให้อาคารบ้านเรือนประชาชน ศาลาหมู่บ้าน ในหมู่ที่ 1, 2, 3, 4,10 ต.ออนกลาง ได้รับความเสียหายกว่า 90 หลังคาเรือน
นอกจากนี้ อุณหภูมิพื้นราบในตัวเมืองเชียงใหม่ เช้าวันนี้ ได้ลดลงเหลือ 13 องศาเซลเซียส ประชาชนต้องนำเสื้อกันหนาว-กันฝนมาสวมใส่กันทั่วหน้า ขณะที่เกษตรกรที่ปลูกพืชผัก และดอกไม้เมืองหนาว ต้องทำหลังคาพลาสติกคลุมแปลงพืชผัก เพื่อป้องกันกลีบดอก และใบเน่า
ขณะที่บนยอดดอยอ่างขาง ล่าสุดมีรายงานว่า อุณหภูมิต่ำสุดเช้านี้ วัดได้ 2.3 องศาฯ ส่วนบนดอยอินทนนท์มีอุณหภูมิต่ำสุดประมาณ 5-6 องศาฯ ไม่มีลูกเห็บกรือเหมยขาบแต่อย่างใด ส่วนถาพที่มีการแชร์กันในโลกโซเชียลฯ วานนี้นั้น เป็นภาพเก่าของลูกเห็บที่สถานีเรดาร์ประมาณปี 56 และอีกภาพเป็บเหมยขาบ แต่ไม่ใช่ภาพที่ดอยอินทนนท์แต่อย่างใด
ทั้งนี้ ล่าสุดขณะนี้ท้องฟ้าในตัวเมืองเชียงใหม่ยังคงมืดครื้ม และมีฝนตกลงมาตลอดเวลา หลังฝนหยุดตก สภาพอากาศน่าจะหนาวเย็นเพิ่มขึ้น ด้านจังหวัดน่านหลังจากที่มีฝนตกหนักตลอดทั้งคืนส่งผลให้สภาพอากาศเช้านี้ทุกพื้นที่ มีอุณหภูมิลดต่ำลงอย่างฉับพลัน โดยเขตเมืองอุณหภูมิลดต่ำเหลือ 9 องศาเซลเซียส ขณะที่ในพื้นที่ อ.บ่อเกลือ อุณหภูมิลดเหลือ 4 องศาเซลเซียส ซึ่งประชาชนมีการใช้แอพลิเคชั่นในสมาร์ทโฟน เพื่อเทียบอุณหภูมิความหนาวเย็นและแชร์ผ่านสื่อโซเชียลกันอย่างแพร่หลาย
นายสุวัฒน์ พรมสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน แจ้งเตือนประชาชนให้พร้อมรับมือกับสภาพอากาศที่แปรปรวนนี้ ซึ่งมีทั้งฝนฟ้าคะนองและสภาพอากาศที่หนาวเย็นลงฉับพลัน ขอให้ระมัดระวังเรื่องสุขภาพ ทำให้ร่างกายอบอุ่น โดยเฉพาะประชาชนที่อาศัยอยู่ตามพื้นที่สูงและตามยอดดอย
