อุบลราชธานี - ปลาเลี้ยงในกระชังกลางแม่น้ำมูล จังหวัดอุบลราชธานี ยังตายเพิ่มเรื่อยๆ ผู้เลี้ยงต้องจับปลาขายแบบเลหลัง 4 กก.หนึ่งร้อยบาท ส่วนที่ตายแล้วทำเป็นปลาร้าได้เพียงกิโลกรัมละ 10-15 บาท เพื่อลดความเสียหาย
จากกรณีปลาเลี้ยงในกระชังในแม่น้ำมูล เขตบ้านแพง ต.สว่าง อ.สว่างวีรวงศ์ และบ้านดงบัง ต.ดอนมดแดง อ.ดอนมดแดง จ.อุบลราชธานี ตายกว่า 30 ตัน จากสภาพอากาศท้องฟ้ามีแสดงแดดน้อย และแม่น้ำมูลมีระดับน้ำลดลงมาก โดยระดับน้ำขณะนี้สูงเพียง 1.50 เมตร ทำให้ออกซิเจนในน้ำมีน้อยนั้น
ความคืบหน้าช่วงสายวันนี้ เกษตรกรผู้เลี้ยงปลากระชังบ้านดงบัง ต.ดอนมดแดง อ.ดอนมดแดง ต้องลากกระชังปลาที่ตายเพิ่มแบบยกกระชัง เพื่อตักปลาขึ้นมาทำเป็นปลาร้าขายในราคากิโลกรัมละ 10-15 บาท
ส่วนกระชังเลี้ยงปลาใกล้เคียงที่ยังไม่มีปลาตาย แต่ปลาเริ่มมีอาการอ่อนแรงจากน้ำที่มีออกซิเจนน้อย ทยอยตักปลาขึ้นมาขายส่งราคา 3-4 กิโลกรัมหนึ่งร้อยบาท เพื่อเร่งระบายปลาออกสู่ตลาด และผู้เลี้ยงบางรายก็เร่งขยายพื้นที่เลี้ยง เพื่อลดความแออัดให้กับปลาจากกระชังละ 1,000-1,300 ตัว ให้เหลือเพียงกระชังละ 700-800 ตัว เพื่อป้องกันปลาตายเพิ่มอีก
นายอาทิตย์ มีวงศ์ เจ้าของกระชังเลี้ยงปลานิลที่ตายเพิ่มวันนี้ กล่าวว่า ปลาเริ่มมีอาการอ่อนแรงตั้งแต่เย็นวันที่ 20 ม.ค.และได้ตายยกกระชังไม่เหลือเมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา แม้พยายามระบายปลาออกสู่ตลาดแต่ไม่ทัน เพราะตลาดรับได้เพียงวันละ 1 ตัน แต่ตนมีปลาเลี้ยงมากกว่า 13 ตัน
สำหรับปลาที่ตายเป็นปลาอายุเกือบ 5 เดือน ซึ่งโตเต็มที่มีน้ำหนักเฉลี่ยตัวละประมาณ 1 กิโลกรัม ทำให้ตนเสียหายเกือบ 1 ล้านบาท
ส่วนสาเหตุมาจากออกซิเจนในน้ำมีน้อยเพราะท้องฟ้าปิดแสงแดดไม่มาก รวมทั้งแม่น้ำมูลลดลงรวดเร็วกว่าทุกปี และยังเป็นน้ำนิ่งไม่ไหล เพราะมีการปิดประตูระบายน้ำเขื่อนปากมูลเพื่อเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้งปีนี้ด้วย
