xs
xsm
sm
md
lg

หวิดปะทะเดือด! ชาวสวนยางศรีสะเกษฮือต้าน จนท.ป่าไม้ บุกตัดต้นยางทิ้งกว่า 100 ไร่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ศรีสะเกษ - ชาวสวนยางลุกฮือต้านเจ้าหน้าที่ป่าไม้เข้าไปตัดต้นยางทิ้งกว่า 100 ไร่ แกนนำชาวไร่เผยเจ้าหน้าที่ลอบเข้าไปตัดสวนยางกลางดึกชาวบ้านนึกว่าโจรหวิดปะทะเดือด ขณะทหารกว่าครึ่งร้อยรุดเข้าไปรักษาความสงบป้องกันชาวบ้านปะทะเจ้าหน้าที่ป่าไม้

เมื่อเวลา 15.30 น. วันนี้ (18 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณกลางสวนป่าห้วยจันทน์ ต.ห้วยจันทน์ อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ ได้มีชาวสวนยางพารา อ.ขุนหาญ จากหลายหมู่บ้าน จำนวนประมาณ 100 คน นำโดยนายประสิทธิ์ มีฤทธิ์ อายุ 52 ปี พร้อมด้วย นายสมบัติ จำมี อายุ 45 ปี และนางปาริชาติ สินศิริ อายุ 40 ปี พากันมารวมกลุ่มค้านการที่เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ ศก 1 นำโดย นายธนิตย ทวีชื่น หัวหน้าหน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ ศก 1 ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่จำนวนประมาณ 70 คน มาทำการตัดโค่นต้นยางพาราที่กำลังโต อายุประมาณ 2-3 ปี ที่ชาวบ้านปลูกเอาไว้ในบริเวณสวนป่าห้วยจันทน์ โค่นล้มเป็นบริเวณกว้างประมาณ 100 ไร่

โดยชาวบ้านได้ทำการโค่นต้นยูคาลิปตัสขนาดใหญ่ขวางทางเจ้าหน้าที่เอาไว้ และมีชาวบ้านพากันไปปล่อยลมรถยนต์ของเจ้าหน้าที่จำนวน 6 คัน เพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่ออกจากบริเวณสวนป่าห้วยจันทน์ เนื่องจากชาวบ้านโกรธแค้นที่เจ้าหน้าที่เข้าไปตัดโค่นต้นยางที่ปลูกเอาไว้เสียหายนับหมื่นต้น

ขณะเดียวกัน พ.ต.จักรกฤษณ์ ช่วยพันธุ์ นายทหารยุทธการชุดควบคุมทหารปืนใหญ่ กองกำลังสุรนารี ได้รับมอบหมายจาก พ.อ.ณรงค์ กลั่นวารี ผบ.กองกำลังรักษาความสงบประจำพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ ได้นำกำลังทหารประมาณ 50 นายเข้ามารักษาความสงบเรียบร้อย และได้มีการเจรจากันกับกลุ่มชาวบ้านที่เป็นชาวสวนยางพารา

นายประสิทธิ์ มีฤทธิ์ อายุ 52 ปี แกนนำชาวสวนยางพารา กล่าวว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 03.00 น. ของวันที่ 18 ม.ค. ได้มีกลุ่มชายฉกรรจ์ จำนวนประมาณ 70 คน พากันเข้ามาใช้มีด เลื่อยยนต์ และขวาน บุกเข้าไปตัดโค่นต้นยางของชาวบ้านที่ปลูกเอาไว้ในเขตสวนป่าห้วยจันทน์ ชาวบ้านที่เฝ้าสวนยางเห็นเหตุการณ์ได้รีบแจ้งให้กลุ่มชาวสวนยางได้ทราบ และได้พากันรวมกลุ่มกันมายังที่เกิดเหตุ ซึ่งเมื่อกลุ่มชายฉกรรจ์ที่ส่วนมากเป็นวัยรุ่นเห็นชาวบ้านมาเป็นจำนวนมาก ได้พากันวิ่งหลบหนีเข้าไปในป่าสวนยางที่ปลูกต้นมันสำปะหลังด้วย

ต่อมาได้มีเจ้าหน้าที่ทหารเข้ามาเจรจากับชาวบ้าน ทำให้กลุ่มชายฉกรรจ์พากันออกมาจากป่าและขึ้นรถปิกอัพ จำนวนประมาณ 7 คัน ออกไปลุยตัดต้นยางบริเวณใกล้เคียงต่อไป ซึ่งพวกตนไม่สามารถที่จะห้ามปรามได้ ต้องปล่อยให้ต้นยางพาราที่ชาวบ้านพากันปลูกไว้ถูกตัดโค่นไปเรื่อยๆ รวมแล้วประมาณ 100 ไร่

นายประสิทธิ์กล่าวต่อไปว่า ต้นยางพาราที่ชาวบ้านพากันเข้ามาปลูกในสวนป่าห้วยจันทน์นี้เป็นพื้นที่ดินทำกินที่พวกตนทำกินมานานประมาณ 40-50 ปีแล้ว ต่อมาได้มีการประกาศให้สวนป่าห้วยจันทน์อยู่ในความควบคุมดูแลของหน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ ศก 1 ซึ่งพวกตนได้ยื่นหนังสือเรียกร้องขอที่ดินทำกินผืนนี้จากส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง จนกระทั่งมีการสำรวจพื้นที่ โดยการใช้ภาพถ่ายทางอากาศเพื่อเป็นการพิสูจน์สิทธิ์ โดยตามมติ ครม. 2 ก.พ. 42 และ 9 ก.พ. 42 แจ้งว่า หากพิสูจน์สิทธิ์ว่าชาวบ้านทำกินก่อนปลูกต้นยูคาลิปตัส จะให้สิทธิ์ชาวบ้านในที่ดินทำกินผืนนี้ แต่หากผลการพิสูจน์สิทธิ์ว่าชาวบ้านปลูกต้นยางหลังการปลูกต้นยูคาลิปตัส ชาวบ้านจะต้องออกจากบริเวณผืนป่าที่ปลูกยางพารานี้ไว้

ขณะนี้กำลังรอเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมาทำการสอบสิทธิ์ให้แก่ชาวบ้าน จำนวน 602 ราย แต่ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้เข้ามาตัดต้นยางพาราของชาวบ้านจำนวนมาก โดยที่ไม่รอการสอบสิทธิ์ให้ชาวบ้านแต่อย่างใด ซึ่งหากว่าจะมีการพูดคุยกันเพื่อแก้ปัญหาเรื่องนี้ในระดับจังหวัด ตนขอฝากไปถึงผู้ว่าราชการจังหวัดดศรีสะเกษว่าควรที่จะอนุญาตให้พวกตนกลุ่มชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบโดยตรงเข้าไปชี้แจงข้อมูลที่ถูกต้องให้คณะกรรมการได้รับทราบด้วย ไม่ใช่เพียงแค่ยึดแต่ระเบียบกฎหมายแต่เพียงฝ่ายเดียว โดยไม่คำนึงถึงเรื่องปากท้องความเป็นอยู่ของชาวบ้านที่ยากไร้

นายธนิตย ทวีชื่น หัวหน้าหน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ ศก 1 กล่าวว่า การที่นำเจ้าหน้าที่มาตัดโค่นยางพารานั้น เนื่องจากเป็นบริเวณที่ศาลพิพากษาแล้วว่ารุกล้ำเข้าไปในเขตสวนป่าห้วยจันทน์ จำนวนทั้งสิ้น 100 ราย พื้นที่ 1,900 ไร่ และเป็นสวนยางพาราที่ไม่มีใครเป็นเจ้าของ ตนจึงได้รับคำสั่งให้มาทำการยึดคืนพื้นที่ป่าเป็นของทางราชการ ซึ่งกรณีที่มีการคัดค้านและต่อต้านนี้ ตนจะได้นำเรื่องนี้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ เพื่อจะได้นำเรื่องนี้นำเข้าหารือในที่ประชุมคณะอนุกรรมการป้องกันและปราบปรามการทำลายทรัพยากรป่าไม้ระดับจังหวัดเพื่อพิจารณาต่อไป

และเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้มีปัญหากับกลุ่มชาวบ้านที่ต่อต้าน ตนจึงได้สั่งการทางวิทยุสื่อสารให้เจ้าหน้าที่ทุกคนกลับไปประจำที่ตั้งตามปกติ เพื่อรอคำสั่งจากหน่วยเหนือว่าจะสั่งการให้ดำเนินการอย่างไรต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า หลังจากที่เจ้าหน้าที่ป่าไม้ทั้งหมดออกไปจากสวนป่าห้วยจันทน์แล้ว ชาวบ้านที่รวมกลุ่มคัดค้านก็ได้พากันสลายตัว และได้จัดเวรยามเฝ้ารักษารอบสวนยางพาราที่ปลูกไว้ที่บริเวณสวนป่าห้วยจันทน์ ทั้งนี้เนื่องจากเกรงว่าอาจมีเจ้าหน้าที่ป่าไม้เข้ามาลักลอบตัดโค่นต้นยางพาราที่ชาวบ้านปลูกเอาไว้จำนวนหลายร้อยไร่









กำลังโหลดความคิดเห็น