ราชบุรี - คนแห่เช่า“เสืออุ้มทรัพย์” ของ “หลวงพ่ออุทัย” วัดเกาะตาพุด ราชบุรี พร้อมรดน้ำมนต์จนแน่นวัด หลังผู้รักษาประตูทีมชาติไทยชุดยู 23 นำไปห้อยไว้ที่หลังประตูในเกมปะทะซาอุดีอาระเบีย จนช่วยเชฟจุดโทษ และลูกยิงของฝ่ายตรงข้ามอีกหลายลูกไว้ได้
หลังจาก“สมพร ยศ” ผู้รักษาประตูทีมชาติไทยชุดอายุไม่เกิน 23 ปี สามารถป้องกันการยิงจุดโทษและจังหวะยิงหลายครั้งของทีมชาติซาอุดิอาระเบียไว้ได้ ในแมตช์แรกของศึก ยู 23 ชิงแชมป์เอเชีย 2016 กลุ่มบี ที่โดฮา ประเทศกาตาร์ เมื่อกลางดึกวันพุธที่ 13 ม.ค.ที่ผ่านมา ทำให้มีข่าวชาวบ้านแห่ไปเช่าเสืออุ้มทรัพย์ และพบว่าในแมตช์นั้น“สมพร ยศ”ได้นำ"เสืออุ้มทรัพย์"ที่หลวงพ่ออุทัย ปภังกโร เจ้าอาวาสวัดศรีมฤคทายวัน หรือวัดเกาะตาพุด จังหวัดราชบุรี ได้สร้างขึ้นเพื่อหาเงินไปสร้างโบสถ์ แขวนไว้ที่ตาข่ายประตูระหว่างการแข่งขันด้วย ทำให้ชาวบ้านแห่ไปเช่าเสืออุ้มทรัพย์ ที่วัดเกาะตาพุด จังหวัดราชบุรี เป็นจำนวนมาก
วันนี้ (15 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่วัดเกาะตาพุด (วัดศรีมฤคทายวัน) ตั้งอยู่หมู่ 4 ต.ธรรมเสน อ.โพธาราม จ.ราชบุรี พบว่า มีประชาชนแห่มาเช่าซื้อวัตถุมงคลที่ทางวัดจัดสร้างมีทั้ง “เสืออุ้มทรัพย์” รุ่นที่นักฟุตบอลทีมชาตินำไปบูชา “เต่าเรียกทรัพย์ ตะกรุด พระสมเด็จ” ที่สร้างขึ้นจากแร่ที่เขาอึมครึมใน จ.กาญจนบุรี และขี้ผึ้งมหาเสน่ห์ นอกจากนี้ ยังได้ให้หลวงพ่ออุทัย ทำพิธีประพรมน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ให้อย่างไม่ขาดสาย
นายจิตพิทักษ์ ช่วยพิชัย อดีตปลัดอำเภอโพธาราม และเป็นเซียนพระชื่อดังในเขตอำเภอโพธาราม จ.ราชบุรี กล่าวว่า หลวงพ่ออุทัย สร้างเสือขึ้นเพื่อต้องการหาเงินมาสร้างโบถส์หลังใหม่แทนหลังเก่าที่ชำรุดทรุดโทรม โดยสร้าง 10,000 องค์ ซึ่งพุทธคุณของเสือนั้นจะเป็นเรื่องของความมีอำนาจ มีเมตตา กรุณา แคล้วคลาดปลอดภัย โดยเฉพาะเรื่องการค้าขายนั้นจะดีมาก แต่ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่ความเชื่อ และศรัธทาของบุคคลนั้น ซึ่งถ้านำไปใช้ในทางที่ดีก็จะเกิดประโยชน์ ซึ่งวัตถุมงคลของหลวงพ่อนั้นไม่ใช่มีแต่เสือ แต่มีทั้งเต่า ตะกรุด พระสมเด็จ น้ำมนต์พันล้าน รวมทั้งขี้ผึ้ง ซึ่งประชาชนสามารถมาหาเช่าได้ที่วัดเพื่อจะได้ร่วมกันนำเงินไปสร้างโบถส์ให้เสร็จ
นายสุชาติ บรรดาศักดิ์ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ จ.นนทบุรี ซึ่งเดินทางมาให้หลวงพ่ออุทัย ประพรมน้ำมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคล กล่าวว่า เมื่อประมาณ 8-9 ปีที่ผ่านมา ได้มาทำบุญที่วัดแห่งนี้แล้วเกิดความศรัทธาอย่างมาก เพราะเห็นว่าหลวงพ่อนั้นตามองไม่เห็นทั้ง 2 ข้าง แต่สามารถประพรมน้ำมนต์ให้แก่ประชาชนที่มาได้ครบทุกคนเหมือนคนที่มองตามปกติ และท่านก็สมถะมาก เพราะนอนใต้ฐานพระในโบถส์หลังเก่าจนลูกศิษย์ต้องสร้างกุฏิให้ใหม่ และท่านสามารถประพรมน้ำมนต์จนสามารถหาเงินมาสร้างศาลาการเปรียญด้วยงบประมาณมากกว่า 200 ล้านบาท จึงเกิดความเลื่อมใสศรัทธาอย่างมาก ส่วนวัตถุมงคลที่วัดจัดสร้างขึ้นมานั้นตนมีเกือบทุกรุ่นเพราะมาทำบุญบ่อยตามกำลังศรัทธา
สำหรับประวัติหลวงพ่ออุทัยตาทิพย์ หรือพระครูสังฆรักษ์อุทัย ปภงฺกโร วัดศรีมฤคทายวัน (วัดเกาะตาพุด) อ.โพธาราม จ.ราชบุรี เดิมชื่อ อุทัย ดอกเกตุ เกิดที่ ต.บ้านใหม่ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี บิดาชื่อ นายทัพ มารดาชื่อ นางแสง อาชีพทำนา มีลูกทั้งหมด 6 คน หลวงพ่ออุทัย เป็นบุตรคนที่ 2 ปัจจุบัน พี่น้องเสียชีวิตหมด เมื่ออายุได้ 6 ขวบ เกิดเป็นโรคขึ้นที่ตาเรียกว่า ตาเกล็ดกระดี่ พิษของโรคทำให้ตาบอดทั้ง 2 ข้าง แต่ยังพอมองเห็นแสงเดือน แสงไฟฟ้าแลบบ้าง ไม่ได้เรียนหนังสือ
ต่อมา โยมพ่อได้พา ด.ช.อุทัย ไปฝากไว้กับหลวงพ่อแทน ธมฺมโชติ เจ้าอาวาสวัดธรรมเสน และหลวงพ่อแทน เอามาฝากไว้ที่สำนักสงฆ์เกาะตาพุด เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อฟุ้ง อยู่ 1 ปี พออายุครบบวช หลวงพ่อแทน ได้ให้ไปบวชที่วัดธรรมเสน ในปี 2497 และกลับมาจำพรรษาอยู่ที่วัดเกาะตาพุด เพราะหลวงพ่อแทน เห็นว่าถ้าอยู่ที่วัดนี้อาจจมน้ำตายได้ เพราะรอบๆ วัดเต็มไปด้วยน้ำ การเดินทางต้องใช้เรือพายตลอด ซึ่งพระอุทัย ตาบอดทั้ง 2 ข้าง ส่วนการเรียนหนังสือใช้วิธีต่อเอาจากพระด้วยกัน ช่วงแรกเป็นสำนักสงฆ์เกาะตาพุด ต่อมา เปลี่ยนเป็นวัดศรีมฤคทายวัน เมื่อปี 2506 ส่วนชื่อวัดเกาะตาพุด เป็นชื่อวัดที่ชาวบ้านเรียกกัน
หลวงพ่ออุทัย ประพรมน้ำมนต์ในโบสถ์มีลูกศิษย์ที่เคารพนับถือไปหาทุกวัน ทั้งคนใน จ.ราชบุรีและต่างจังหวัด รวมถึงคนกรุงเทพฯ มากมาย เว้นเฉพาะวันพระเท่านั้นที่จะหยุดไม่พรมน้ำมนต์ให้ใคร นอกจากนี้ ยังมีเหรียญ และพระเครื่องบูชาโดยนำเงินที่ได้ไปสร้างสาธารณประโยชน์ให้แก่สังคม รวมทั้งนำไปช่วยเหลือองค์การการกุศล และช่วยเหลือทหาร และ ตชด.ตามชายแดน