อุบลราชธานี - ตำรวจอุบลราชธานีโชว์จับพระเสพยาบ้า พร้อมขยายผลตามจับแก๊งค้ายาบ้าผัวไทยเมียลาว ลักลอบนำยาบ้าเข้ามาขายในประเทศ ก่อนซัดทอดไปถึงญาติ ซึ่งเป็นคนขับรถพยาบาล 1669 จนถูกจับมาดำเนินคดีรวม 6 คน
เมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ (14 ม.ค.) พ.ต.อ.สนอง บุญเกิด ผกก.สภ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี แถลงผลการจับกุมพระภิกษุเสพยาบ้าจำนวน 2 รูป ฆราวาสที่ครอบครองยาบ้า รวมทั้งแก๊งค้ายาบ้าจากประเทศเพื่อนบ้านอีก 3 คน ได้ยาบ้า 493 เม็ด ผู้ต้องหา 6 คน
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมาถึงเช้าวันนี้ พ.ต.ท.ปวรชัย บุรกรณ์ รอง ผกก.สส.สภ.พิบูลมังสาหาร ร่วมกับชุดปราบปรามยาเสพติดได้ตั้งด่านที่สะพานข้ามแม่น้ำมูล ถ.พิบูลมังสาหาร-โขงเจียม ต.พิบูลมังสาหาร พบรถยนต์กระบะฟอร์ด ทะเบียน ผข 2270 อุบลราชธานี มีพระนั่งมากับคนขับเป็นวัยรุ่น จึงเรียกตรวจค้น
ทราบชื่อคนขับคือ นายสุริยา ทองเหลือง อายุ 19 ปี ชาวอำเภอศรีเมืองใหม่ ส่วนพระที่นั่งมาในรถทราบชื่อคือ พระทรงกลด หรือนายทรงกลด เฉลิมสุข อายุ 27 ปี ชาวตำบลขามใหญ่ อ.เมืองอุบลราชธานี และพระสุรศักดิ์ หรือนายสุรศักดิ์ สัจจะธรรม อายุ 25 ปี ชาวบ้านอำเภอเขมราฐ ทั้งสามทำตัวมีพิรุธ จึงทำการตรวจปัสสาวะพบพระทั้งสองรูปมีสารเสพติดในร่างกาย ส่วนนายสุริยาค้นในตัวเจอยาบ้า 3 เม็ด จึงนำตัวไปทำการสึก
จากการสอบสวนทราบว่าพระทั้งสองบวชมา 3-4 พรรษาแล้ว โดยก่อนจะมาบวชได้เสพยาบ้ามาก่อน จึงได้เสพยามาอย่างต่อเนื่อง วันเกิดเหตุจะเดินทางไปเยี่ยมญาติมาพบกับด่าน จึงถูกจับดำเนินคดีร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อเสพอย่างผิดกฎหมาย
และในเวลาไล่เลี่ยกัน ชุดสืบสวนปราบปรามชุดเดียวกันได้ทำการล่อซื้อยาจากนักค้ายาบ้าชาวลาว โดยให้สายลับนัดแนะนำยาบ้าจำนวน 240 เม็ดมาส่งมอบในตลาดสดเทศบาลเมืองพิบูลมังสาหาร ถึงเวลานายปรีชา จันทรสาขา อายุ 56 ปี ชาวบ้านห้วยหมาก ต.ห้วยไผ่ อ.โขงเจียม ขับรถกระบะ อีซูซุ ทะเบียน บษ 8805 อุบลราชธานี พานางบุญมาก สีดาคำ อายุ 55 ปี ภรรยาที่เป็นราษฎรลาวนำยาบ้ามาส่งมอบให้ในราคา 16,000 บาท จึงจับกุมตัวไว้
พร้อมขยายผลตามไปจับนายทองอินทร์ จันทรสาขา อายบุ 37 ปี พนักงานขับรถ 1669 ประจำ อบต.สระสมิง อ.วารินชำราบ ซึ่งเป็นญาติและเป็นเครือข่ายค้ายาบ้าในอำเภอวารินชำราบ ผลการตรวจค้นพบซุกซ่อนยาบ้าไว้ในลำฝักบัวและในต้นมะเขืออีก 250 เม็ด
ทั้งหมดรับสารภาพว่าไปซื้อยาบ้ามาจากแก๊งค้ายาชาวลาว นำมาขายต่อให้วัยรุ่นในประเทศไทย จึงแจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายดำเนินคดีต่อไป