ศรีสะเกษ - ชาวบ้าน 5 หมู่บ้านตำบลตำแย อ.พยุห์ จ.ศรีสะเกษ ฮือค้านตั้งโรงไฟฟ้าชีวมวลหวั่นขาดน้ำ กระทบการเกษตร เกรงสารเคมีรั่วไหลส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน เผยที่ตั้งโรงไฟฟ้าอยู่ใกล้ชุมชน ห่างจากบ้านเรือนของชาวบ้านเพียง 230 เมตร
วันนี้ (13 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณสนามหน้าที่ว่าการอำเภอพยุห์ จ.ศรีสะเกษ ได้มีกลุ่มชาวบ้านจาก 5 หมู่บ้านในเขตตำบลตำแย ประกอบด้วย บ้านกระแซง หมู่ 2 บ้านกระถุน หมู่ 4 บ้านกลาง หมู่ 7 บ้านกระแซง หมู่ 8 และบ้านหนองห้าง หมู่ 12 นำโดย นายนรพันธุ์ อุตราช อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20 หมู่ 12 บ้านหนองห้าง นางแหวง บุรกรณ์ อายุ 74 ปี นางดวงพร จวงจันทร์ อายุ 43 ปี พร้อมด้วยชาวบ้านจำนวนประมาณ 100 คน พากันมายกป้ายคัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวล
ทั้งนี้ เนื่องจากเมื่อวันที่ 27 ต.ค. 58 ที่ผ่านมา ประชาชนทั้ง 5 หมู่บ้านได้ทำการประชุมประชาคม 5 หมู่บ้าน เพื่อลงมติเกี่ยวกับการก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวล ซึ่งที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ไม่ให้บริษัท อันไลแอนซ์ คลีนพาวเวอร์ จำกัด เข้ามาดำเนินการก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวลในเขตพื้นที่ ต.ตำแย โดยกลุ่มผู้นำชาวบ้านได้ยื่นหนังสือคัดค้านเรื่องนี้ต่อผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดศรีสะเกษ และอุตสาหกรรมจังหวัดศรีสะเกษแล้ว
โดยตัวแทนชาวบ้านได้ยื่นหนังสือต่อนายอำเภอพยุห์ แต่ปรากฏว่านายอำเภอพยุห์ติดราชการ จึงได้มอบให้ นายวิทยา แอบกล้า ปลัดอำเภอพยุห์ มารับหนังสือแทน ซึ่งมี พ.ต.อ.เศวต เศวตวิวัฒน์ ผกก.สภ.พยุห์ นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ทหารกองกำลังรักษาความสงบประจำพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ มารักษาความสงบเรียบร้อย
นายนรพันธุ์ อุตราช อายุ 37 ปี ตัวแทนชุมชน กล่าวว่า การมายื่นหนังสือในวันนี้ต้องการที่จะยื่นเอกสารประกอบการคัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวลเพิ่มเติม เพื่อขอให้นายอำเภอพยุห์นำไปเสนอต่อที่ประชุมในคณะกรรมการกลั่นกรองการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเพื่อการขอรับใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานผลิตไฟฟ้า จ.ศรีสะเกษ ตามคำสั่ง จ.ศรีสะเกษ ที่ 4782/2558 ลงวันที่ 30 พ.ย. 2558 ที่จะจัดให้มีการประชุมในวันที่ 14 ม.ค. 2559 นี้ด้วย
การที่พวกตนคัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวล เนื่องจากพื้นที่ตั้งโรงไฟฟ้าไม่เหมาะสม กีดขวางทางน้ำไหลตามธรรมชาติ เพราะในฤดูฝนบางปีที่มีฝนตกหนักจะเกิดน้ำท่วม หากโรงไฟฟ้าตั้งในพื้นที่ดังกล่าวอาจถูกน้ำท่วมส่งผลให้สารพิษ สารเคมีต่างๆ รั่วไหล ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน สัตว์เลี้ยง ผลผลิตทางการเกษตร สัตว์และพืชพันธุ์ตามธรรมชาติ
อีกทั้งพื้นที่ตั้งโรงไฟฟ้าใกล้หมู่บ้าน วัด โรงเรียน หากมีเหตุขัดข้องในกระบวนการผลิตของโรงงานที่ไม่สามารถควบคุมได้จะส่งผลกระทบต่อประชาชนโดยง่าย เพราะที่ตั้งโรงไฟฟ้าใกล้กับชุมชนไม่ถึง 1 กม.
นางแหวง บุรกรณ์ อายุ 74 ปี ตัวแทนชุมชน กล่าวว่า ชาวบ้านตำบลตำแยร้อยละ 80 ทำการเกษตร หากสร้างโรงไฟฟ้าจะส่งผลกระทบต่อเกษตรกร เพราะกระบวนการผลิตกระแสไฟฟ้าจำเป็นต้องใช้น้ำในการผลิตเป็นจำนวนมาก และใช้น้ำทุกวันจะทำให้แหล่งน้ำตามธรรมชาติถูกนำมาใช้เพื่อการผลิตกระแสไฟฟ้าทั้งน้ำบนดินและน้ำใต้ดิน จะส่งผลทำให้เกษตรกรขาดน้ำในการทำการเกษตร และน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคในชีวิตประจำวัน จะทำให้ประชาชนชาวตำบลตำแยประสบปัญหาภัยแล้งมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย
นางเนียน พิมพ์เสน อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 51 หมู่ 12 บ้านหนองห้าง ซึ่งบ้านอยู่ใกล้จุดที่จะก่อสร้างโรงไฟฟ้ามากที่สุด กล่าวว่า บ้านของตนอยู่ห่างจากบริเวณที่จะก่อสร้างโรงไฟฟ้าเพียง 230 เมตร ซึ่งนับว่าตนจะได้รับผลกระทบมากที่สุด ทำให้ตนและครอบครัวกินไม่ได้นอนไม่หลับด้วยความหวาดกลัวต่อผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ตนขอคัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวลด้วยชีวิต เพราะหากได้สร้างโรงไฟฟ้าขึ้นมา ตนกับครอบครัวไม่สามารถที่จะดำรงชีวิตต่อไปได้ เพราะผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันตรายร้ายแรงมาก
ทางด้านนายสุชาติ ภาเจริญ นายอำเภอพยุห์ กล่าวว่า เอกสารที่กลุ่มประชาชนที่คัดค้านนำเอาประกอบการคัดค้านเพิ่มเติมนี้ ตนจะนำไปเสนอในที่ประชุมเพื่อพิจารณาต่อไป ซึ่งการก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวลในเขต ต.ตำแยนั้น ตนมีหน้าที่เป็นเพียงผู้ประสานงานในการเจรจาพูดคุยกันระหว่างกลุ่มประชาชนที่คัดค้านกับตัวแทนเจ้าของโรงไฟฟ้าที่จะมาก่อสร้างเท่านั้น ตนต้องการให้มีการเจรจากันเพื่อหาข้อยุติร่วมกันด้วยเหตุและผลของข้อเท็จจริง เพื่อให้เกิดความปรองดองเพื่อความสงบสุขของประชาชนในเขต ต.ตำแย และชาว อ.พยุห์ทุกคน
ส่วนผลการพิจารณาจะเป็นอย่างไรต้องขึ้นอยู่กับมติที่ประชุมที่จะมีการพิจารณาร่วมกันในวันที่ 14 ม.ค.นี้