ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - “นายกเล็ก” ทต.บ้านใหม่โคราชพร้อมทีมงาน ตั้งโต๊ะแถลงขอความเป็นธรรม กรณี คสช.มีคำสั่งตามอำนาจ ม.44 ให้ระงับการปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ได้รับค่าตอบแทน พร้อมเกณฑ์ ปชช.มามอบดอกไม้ให้กำลังใจ ยันทำงานตามระเบียบไม่ทุจริตทุกอย่างโปร่งใสตรวจสอบได้ เชื่อเหตุมาจากปัญหาขุดลอกลำปรุ 4.2 ล้านฉาว เตรียมยื่นอุทธรณ์คำสั่งและมั่นใจได้กลับเข้ามาอีกแน่
เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (11 ม.ค.) ที่ริมคลองเขื่อนประตูระบายน้ำมะขามเฒ่า ต.บ้านใหม่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา นางสำรวย พะยอมใหม่ อดีตนายกเทศมนตรีตำบลบ้านใหม่ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกลุ่มที่ 3 ที่ ถูกคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 1/2559 ลงวันที่ 5 ม.ค. 2559 อาศัยอำนาจตามมาตรา 44 รัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) 2557 ให้ระงับการปฏิบัติราชการหรือหน้าที่ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ดำรงตำแหน่งอยู่เป็นการชั่วคราวโดยไม่ได้รับค่าตอบแทน พร้อมทีมงานประกอบด้วยประธานสภาเทศบาลตำบลบ้านใหม่, สมาชิกสภาเทศบาลตำบลบ้านใหม่ ได้ร่วมกันแถลงข่าวเพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรม โดยมีชาวบ้านกลุ่มหนึ่งเดินทางมามอบดอกกุหลาบสีแดงให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ด้วย
นางสำรวย พะยอมใหม่ อดีตนายกเทศมนตรีตำบลบ้านใหม่ เปิดเผยว่า ตนเป็นผู้มีรายชื่อในลำดับที่ 44 กลุ่มที่ 3 ที่ถูกคำสั่งให้ระงับการปฏิบัติหน้าที่ราชการหรือหน้าที่ในเทศบาลตำบลบ้านใหม่ตั้งแต่วันที่ 5 ม.ค.เป็นต้นมา ซึ่งการปฏิบัติหน้าที่ที่ผ่านมาตนมีความมุ่งมั่น ตั้งใจทำงานเพื่อประชาชนชาวตำบลบ้านใหม่ ยืนยันชัดเจนว่าการทำงานทุกขั้นตอนโปร่งใส ตรวจสอบได้ และได้มีหน่วยงานตรวจสอบ เช่น สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.), ป.ป.ช.ส่วนกลาง, ป.ป.ช.จังหวัดนครราชสีมา, อำเภอเมืองนครราชสีมา และจังหวัดนครราชสีมา ได้เข้ามาตรวจสอบทุกโครงการและไม่ได้มีการท้วงติงแต่อย่างใด การทำงานทุกขั้นตอนได้ดำเนินการตามระเบียบของทางราชการที่กำหนดไว้ คือ มีการจัดทำแผนได้รับการอนุมัติจากสภาเทศบาล
นางสำรวยกล่าวว่า ตนได้ทำงานโครงการต่าง ๆ เพื่อพัฒนาพื้นที่ ต.บ้านใหม่ และแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน และความต้องการของประชาชนจำนวนมาก ทุกโครงการที่จัดทำจะถูกต้องเรียนจากผู้ไม่หวัดดี เกือบทุกเรื่องทุกโครงการ จนพนักงานเจ้าหน้าที่แทบไม่มีเวลาจะทำงานที่เป็นประโยชน์กับประชาชน ต้องใช้เวลาทั้งหมดกับการตอบเอกสารเรื่องร้องเรียนไปยังหน่วยงานต่างๆ
การถูกระงับให้ปฏิบัติหน้าที่ในครั้งนี้ ตนจึงมีความเข้าใจเป็นอย่างดีถึงกระบวนการตรวจสอบ อยากร้องขอให้คณะกรรมการหรือหน่วยงานที่ทำหน้าที่ตรวจสอบนั้น ตรวจสอบด้วยความบริสุทธิ์ ยุติธรรม และเป็นธรรม แก่ผู้ปฏิบัติหน้าที่อย่างทุ่มเท เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน
ทั้งนี้ ตนมีความเข้าใจว่าคำสั่งดังกล่าวของ คสช.อาจมาจากเรื่องโครงการขุดลอกคลองลำปรุเพื่อแก้ไขปัญหาวิกฤติภัยแล้งมูลค่า 4.2 ล้านบาท โครงการนี้เป็นโครงการที่ดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน เรื่องการขาดแคลนน้ำในพื้นที่ ต.บ้านใหม่ และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) รวมประชาชนกว่า 1 หมื่นคน เป็นโครงการเพื่อแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนอย่างแท้จริง และได้ทำงานตามระเบียบกฎหมาย และขั้นตอนทุกประการสามารถตรวจสอบได้ ซึ่งโครงการดังกล่าวเคยถูก ป.ป.ช.จังหวัดนครราชสีมา บุกตรวจสอบและมีปัญหาเรื่องร้องเรียนระหว่างตนกับ ป.ป.ช.จังหวัดนครราชสีมา
“หลังจากนี้จะทำหนังสืออุทธรณ์คำสั่งของ คสช. และชี้แจงข้อเท็จจริงให้แก่ คสช.ได้ทราบเพื่อนำไปเป็นข้อมูลในการพิจารณาให้ความเป็นธรรมแก่ตนต่อไป เชื่อมั่นว่าตนจะได้กลับเข้ามาปฏิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรีตำบลบ้านใหม่ในเร็วๆ นี้แน่นอน” นายสำรวยกล่าวในตอนท้าย