เชียงใหม่/ลำพูน - การรถไฟฯ เปิดเดินรถสายเหนือตามปกติแล้ว หลังซ่อมราง-กู้โบกี้รถไฟขบวนสินค้าขนปูน-น้ำมันดีเซล ตกรางเสร็จกลางดึกที่ผ่านมา เที่ยวแรกวิ่งผ่านจุดเกิดเหตุตอนตีสามวันนี้ ขณะที่คนรอรถไฟฟรีขาล่องแห่ขึ้นออกจากเชียงใหม่แล้ว หลังต้องนอนหนาวคาสถานีแบบข้ามวันข้ามคืน
วันนี้ (7 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการกู้โบกี้รถไฟขบวนสินค้าที่ขนปูนซีเมนต์ และน้ำมันดีเซล ซึ่งเกิดอุบัติเหตุตกรางที่สถานีหนองหล่ม ต.ศรีบัวบาน อ.เมืองลำพูน ทำให้รถไฟสายเหนือไม่สามารถวิ่งผ่านได้ และต้องวิ่งรถมาถึงสถานีรถไฟนครลำปาง ทั้งขาขึ้น-ขาล่อง ตลอดวานนี้ (6 ม.ค.) นั้น
ต่อมาเจ้าหน้าที่การรถไฟฯ ได้ระดมกำลังและคนงานร่วมกับหลายฝ่ายจำนวนกว่า 100 คน เร่งกู้โบกี้เพื่อเคลียร์เส้นทางเดินรถ แต่ตลอดทั้งวันไม่สามารถกู้โบกี้ทั้งหมดได้ จึงปรับวิธีการโดยใช้รถยกจำนวน 3 คันยกโบกี้ทั้งหมดที่ขวางทางอยู่ขยับไปวางรางใกล้ๆ กัน แล้วทำการซ่อมรางด้านนอกแทน
โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาซ่อมทางเดินรถไฟกว่า 15 ชั่วโมง จนเสร็จสิ้นเมื่อเวลา 22.00 น.ที่ผ่านมา ก่อนจะนำรถซ่อมทางมาทดลองขับผ่านเพื่อทดสอบซึ่งสามารถใช้งานได้ดีจึงทำการเปิดเส้นทางเดินรถได้ตามปกติ ซึ่งจะมีขบวนรถไฟโดยสารกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ วิ่งผ่านเป็นขบวนแรกในเวลา 03.00 น. ที่ผ่านมา ส่วนโบกี้น้ำมันที่เกิดการรั่วไหลด้วยก็จะทำการกู้ต่อไป
ส่วนสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ทางการรถไฟฯ แจงว่าเกิดจากบังใบล้อของรถพ่วงที่บรรทุกน้ำมันชำรุด ซึ่งจะได้หาทางป้องกันแก้ไขเพื่อไม่ให้เกิดเหตุอีก ด้านมูลค่าความเสียหายนั้นยังไม่สามารถประเมินได้
และสถานีรถไฟเชียงใหม่ ซึ่งมีผู้โดยสารตกค้างต้องนอนรอรถไฟฟรีมาตั้งแต่เวลาประมาณ 03.00 น. วันที่ 6 ม.ค.เป็นต้นมานั้น เมื่อเห็นขบวนรถไฟเที่ยวแรกเทียบชานชาลาที่ 3 สถานีเชียงใหม่ ต่างพากันรีบขึ้นรถเพื่อหาที่นั่ง โดยขบวนรถไฟฟรี ขบวนรถเร็ว 102 ต้นทางสถานีเชียงใหม่ ออกจากสถานีเชียงใหม่เมื่อเวลา 7.30 น. ซึ่งล่าช้าไปประมาณ 1 ชั่วโมง จากตารางเวลาเดินรถเดิมที่จะออกในเวลา 6.30 น.
ขณะที่ขบวนรถด่วนนครพิงค์ ที่ออกจากสถานีกรุงเทพฯ เวลา 18.00 น. เดินทางถึงสถานีเชียงใหม่เมื่อเวลา 07.30 น.ที่ผ่านมา โดยมีประชาชนและนักท่องเที่ยวเดินทางมาเต็มทั้งขบวน ซึ่งแม้ว่าการเดินทางล่าช้าไปประมาณ 10 นาที ตามกำหนดเวลาการเดินรถ แต่ประชาชนและนักท่องเที่ยวยังให้ความไว้วางใจในการใช้บริการรถไฟ เชื่อว่ามีความปลอดภัยในการเดินทางมากที่สุด