จันทบุรี - อากาศร้อน แดดแรง กระทบต่อเกษตรกรผู้ปลูกดอกดาวเรืองขายในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี หลังดาวเรืองออกดอกไม่โต และต้นไม่โตทำให้ขายไม่ได้ราคา ประกอบกับเกษตรกรต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มในการให้น้ำมากขึ้น
วันนี้ (6 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปดูสวนดาวเรืองของ นายณัฐกิจ พูลชัยสิทธิ์ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 85 หมู่ที่ 12 ตำบลพลับพลา อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี ที่ปลูกดอกดาวเรืองพันธุ์ตราบ้าน และพันธุ์วดีรินโกลด์สตาร์ขายในเนื้อที่ 20 ไร่ พบว่า ในปัจจุบันจากสภาพอากาศในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี ที่มีอากาศร้อน แดดแรงทำให้ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรผู้ปลูกดาวเรืองขายเป็นอย่างมาก หลังดอกดาวเรืองที่ให้ผลผลิตออกมามีดอกไม่โต และต้นไม่โตด้วยเช่นกัน ทำให้ขายไม่ได้ราคา ประกอบกับเกษตรกรต้องเสียค่าจ่ายเพิ่มจากเดิมที่เคยสูบน้ำรดสวนดาวเรืองวันละ 10 นาที ต้องเพิ่มเป็น 20 นาทีต่อวัน เพื่อช่วยความชุ่มชื่นให้แก่ดินเพื่อไม่ให้ต้นดาวเรืองยืนต้นตาย
สำหรับในปีนี้ ดอกดาวเรืองจะมีราคาดี โดยเบอร์ 1 ขายได้ดอกละ 1 บาท เบอร์ 2 ขายได้ดอกละ 80 สตางค์ เบอร์ 3 ขายได้ดอกละ 50 สตางค์ เบอร์ 4 ขายได้ดอกละ 30 สตางค์ และเบอร์ 5 ขายได้ดอกละ 20 สตางค์ แต่สภาพอากาศไม่เป็นใจก็ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรผู้ปลูกดาวเรืองในพื้นที่จังหวัดจันทบุรีเช่นกัน
ในเรื่องนี้ นายณัฐกิจ พูลชัยสิทธิ์ เกษตรกรผู้ปลูกดาวเรืองขาย กล่าวว่า สภาพอากาศที่มีอากาศร้อน และแดดแรงเช่นนี้ส่งผลกระทบต่อตนเป็นอย่างมาก ทำให้ตนต้องมีการดูแลสวนดาวเรืองเป็นกรณีพิเศษ ในการคอยให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งใส่ปุ๋ยพรวนดิน เพราะหากดอกดาวเรืองขาดน้ำก็จะทำให้ผลผลิตออกมามีดอกเล็กไม่โต รวมทั้งต้นดาวเรืองไม่โตด้วยเช่นกัน ทำให้ขายไม่ได้ราคา ตลาดไม่ต้องการ