ศูนย์ข่าวศรีราชา-เมืองพัทยา ประชุมความคืบหน้าโครงการก่อสร้างอุโมงค์ลอดทางแยกพัทยากลาง เผยคืบหน้า 35% เตรียมดีเดย์ใช้สะพานลอยชั่วคราว 7 มกราคมนี้ แจ้งเตือนพี่น้องประชาชนขออภัยในความไม่สะดวก
บ่ายวันนี้ (5 ม.ค.) ที่ห้องประชุมศาลาว่าการเมืองพัทยา จ.ชลบุรี นายรณกิจ เอกะสิงห์ รองนายกเมืองพัทยา เรียกคณะทำงานโครงการก่อสร้างอุโมงค์ลอดทางแยกพัทยาพัทยากลาง มาร่วมประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าของการดำเนินโครงการ โดยมีส่วนงานที่เกี่ยวข้องทั้งตำรวจจราจร เทศกิจเมืองพัทยา การไฟฟ้าส่วนผลิตเมืองพัทยา และผู้รับผิดชอบโครงการฯ ร่วมนำเสนอข้อมูล
นายฐิติวัชร อนุรุตติกุล วิศวกรโครงการก่อสร้างอุโมงค์ลอดทางแยกพัทยาพัทยากลาง เปิดเผยว่าขณะนี้การดำเนินการต่างๆ ไม่มีความล่าช้าแต่อย่างใด ปัจจุบัน โครงการมีการดำเนินการไปแล้วประมาณ 35% คือ ในส่วนของการทำผนังอุโมงค์มีความคืบหน้า 80% การทำพื้นทางลอดคืบหน้าประมาณ 200 เมตร ซึ่งเชื่อว่าการขุดดินทำอุโมงค์จะแล้วเสร็จเป็นรูปธรรมภายในสิ้นปี 2559 นี้ ซึ่งก็เป็นไปตามแผนที่ได้วางไว้
ทั้งนี้ ในส่วนของการดำเนินการนั้น ในวันที่ 7 มกราคม 2559 นี้ คณะทำงานจะทำการยกสะพานลอยชั่วคราวมาใช้ในส่วนของฝั่งขาเข้ากรุงเทพมหานครฯ บริเวณหน้าโรงเรียนเมืองพัทยา 5 (บ้านเนินพัทธยาเหนือ) ก่อนในวันที่ 11 มกราคม 2559 จะยกสะพานลอยชั่วคราวมาใช้ในส่วนของฝั่งขาเข้าสัตหีบ ซึ่งกำหนดดำเนินการในระยะเวลาสั้นๆ โดยกำหนดการดำเนินการโดยใช้เวลาจัดการจราจรประมาณครึ่งชั่วโมง โดยไม่มีการปิดถนน
และในวันที่ 21 มกราคม 2559 จะเป็นการดำเนินการรื้อสะพานลอยเก่าออกทั้งหมด โดยกำหนดเวลาดำเนินการตั้งแต่ 21.00 น. ถึงเวลา 06.00 น. ซึ่งการรื้อสะพานลอยนั้นจำเป็นต้องมีการปิดถนนเพื่อความปลอดภัยของผู้สัญจรไปมาบริเวณดังกล่าว โดยจะเบี่ยงการจราจรฝั่งขาเข้าสัตหีบเพราะมีการปิดถนนสุขุมวิทบริเวณปากซอยสยามคันทรี่คลับ โดยบังคับรถให้เลี้ยวเข้าถนนพรประภานิมิต เพื่อออกไปใช้ถนนเลียบทางรถไฟ
ส่วนฝั่งขาเข้ากรุงเทพมหานครนั้น จะปิดการจราจรบริเวณแยกพัทยากลาง-สุขุมวิท ก่อนบังคับรถให้ใช้เส้นทางถนนเฉลิมพระเกียรติสาย 3 เพื่อมุ่งหน้าออกสู่ถนนพัทยาเหนือ ซึ่งรูปแบบการดำเนินการก็ขึ้นอยู่กับความยากง่ายของการทำงาน
อุปสรรคสำคัญคือ เรื่องของการจราจรติดขัด จึงอยากทำความเข้าใจ และแจ้งเตือนประชาชนและกราบขออภัยผู้ใช้ถนนมา ณ โอกาสนี้ ซึ่งการทำงานก็ยังคงยึดหลักการให้ความสำคัญเรื่องปลอดภัยอย่างสูงสุด โดยไม่ไปกระทบต่อความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน ซึ่งหากมีปัญหาในรายละเอียดการดำเนินการก็คงต้องมีการปรับแผนเพื่อความต่อเนื่องของโครงการด้วยเช่นกัน
