ราชบุรี - หัวหน้าอุทยาแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน ราชบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า เข้าตรวจสอบซากเก้ง 2 ตัว นอนตายบริเวณเหนืออ่างเก็บน้ำอุทยานเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน ตาดสาเหตุการตายของเก้งทั้ง 2 ตัว น่าจะเกิดจากเสือดำล่า และกัดแทะกินเป็นอาหาร
วันนี้ (27 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอดุลย์ ทำไธสง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน นายธานี ฉายศรี เจ้าหน้าที่ป่าไม้ชำนาญงาน นายสิงห์ จ้อยร่อย พนักงานพิทักษ์ป่า จ.ส.อ.สุมาส เทียนเทียง หัวหน้าชุดปฏิบัติการที่ 2 กองพลพัฒนาที่ 1 นายอนุสร ฤทธ์ล้ำ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 5 บ้านยางหัก และนายนพรัตน์ จั่นสำอาง ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ตำบลยางหัก อำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี เข้าตรวจสอบซากเก้ง 2 ตัว นอนตายอยู่บริเวณเหนืออ่างเก็บน้ำอุทยานเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน หมู่ที่ 5 ตำบลยางหาก อำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี หลังมีนักท่องเที่ยวเดินทางไปท่องเที่ยว และพบเก้งตายจึงแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุบริเวณริมอ่างเก็บน้ำ พบเก้งเพศเมียนอนตาย จำนวน 1 ตัว อายุประมาณ 3 ปี น้ำหนักประมาณ 25 กิโลกรัม อยู่ในสภาพเน่าสงกลิ่นเหม็น คาดว่าตายมาหลายวันแล้ว ลักษณะลำตัวมีบาดแผลที่บริเวณหน้าอกถูกสัตว์กัดแทะมีรอยเขี้ยวหลายแห่ง
เจ้าหน้าที่ได้เดินตรวจสอบยังพบเก้งเพศผู้อีก 1 ตัว ห่างจากที่พบตัวแรกประมาณ 30 เมตร ลักษณะถูกฝังกลบอยู่ในดินทรายขาโผล่ขึ้นมาเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ได้ทำการขุดขึ้นมาตรวจสอบอายุประมาณ 3-4 ปี น้ำหนักประมาณ 30 กิโลกรัม มีเขาทั้ง 2 ข้างบริเวณหัว ตรวจสอบตามลำตัวมีร่องรอยถูกสัตว์กัด เนื้อบริเวณหูทั้ง 2 ข้างถูกกัดแหว่งหายไป คล้ายกับถูกเสือกัด โดยที่ไม่พบร่องรอยของอาวุธที่เกิดจากฝีมือมนุษย์มาทำร้ายแต่อย่างใด ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ลงความเห็นร่วมกันว่า สาเหตุการตายของเก้งทั้ง 2 ตัวนั้น ตายตามธรรมชาติ ซึ่งน่าจะเกิดจากเสือดำล่า และกัดแทะกินเป็นอาหาร
เจ้าหน้าที่ป่าไม้รายหนึ่ง กล่าวว่า เป็นนิสัยของเสือเป็นสัตว์ผู้ล่าเมื่อได้เหยื่อแล้วกินอาหารไม่หมดก็จะขุดดินฝังกลบไว้ เพื่อจะกลับมากินอีกครั้งเมื่อหิว เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่ป่าอุดมสมบูรณ์ ยังมีสัตว์ป่าจำพวกตระกูลเสืออาศัยอยู่ ซึ่งอย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่จะได้เก็บซากเก้งทั้ง 2 ตัว ไว้เพื่อส่งไปพิสูจน์การตายอีกครั้ง หากตรวจสอบแล้วตายเองตามธรรมชาติก็จะนำซากมาทำลายต่อไป